10 ที่เที่ยวออสเตรเลีย แลนด์มาร์คเด่น เช็คอินปุ๊บรู้เลยอยู่เมืองจิงโจ้
1. Sydney Opera House
Sydney Opera House หรือโรงอุปรากรซิดนีย์ สัญลักษณ์สำคัญของเมืองซิดนีย์และประเทศออสเตรเลีย ที่นี่ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวซิดนีย์ นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดให้เข้าชมเป็นครั้งในแรกในปี 1973 โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานในการเปิดงาน ที่นี่ออกแบบโดย Jorn Utzon สถาปนิกชาวเดนมาร์ก การออกแบบโรงละครแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นงานออกแบบสถาปัตยกรรมที่ฉีกกฎงานออกแบบเดิม ๆ ในสมัยนั้นออกไปได้อย่างมาก ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของงานออกแบบสถาปัตยกรรมโลกเลยทีเดียว โดยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 2007 ปัจจุบันนอกจากที่นี่จะเป็นโรงละครหลักของเมืองซิดนีย์แล้ว ก็ยังเป็นที่เที่ยวห้ามพลาดของออสเตรเลียด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ใกล้ ๆ กับโรงละครแห่งนี้ ก็ยังมี Sydney Harbour Bridge อีกหนึ่งที่เที่ยวสำคัญซิดนีย์ให้ได้ไปเที่ยวชมกันด้วย
2. The Great Ocean Road
The Great Ocean Road เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวในฝันของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยถนนเส้นนี้นั้นได้ทอดยาวเลียบชายฝั่งทะเลของเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ ได้นั่งมองวิวของท้องทะเลสุดกว้างใหญ่ สูดอากาศสดชื่นบริสุทธิ์เข้าปอดกันแบบเต็มที่ อีกทั้งยังได้ยลโขดหินริมทะเลรูปร่างสวยงามแปลกตาที่เรียกว่า Twelve Apostles มีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งอยู่ในทะเลริมชายหาด เราจะเห็นริ้วชั้นหินที่สวยงาม เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นได้อย่างเพอร์เฟคท์สุด ๆ
3. Whitehaven Beach
Whitehaven Beach ตั้งอยู่บนเกาะ Whitsundays อันเป็นส่วนหนึ่งในเกาะแก่งของรัฐควีนแลนด์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่สวยงามมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งถูกจัดอันดับโดยเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง Whitehaven Beach มีลักษณะเป็นชายหาดสีขาวยาว 7 กิโลเมตร หากมองจากทางอากาศเราจะเห็นชายหาดแห่งนี้อย่างโดดเด่น ด้วยเนื้อทรายนั้นขาวสะอาดมาก และยังเนียนละเอียดราวกับผงแป้ง การได้สัมผัสเนื้อทรายที่นี่จะทำให้คุณรู้เลยว่านี่แหละสวรรค์ที่แท้จริง นอกจากนี้บริเวณโดยรอบของชายหาด Whitehaven Beach ยังเต็มไปด้วยปะการังที่สวยงามมากมาย ด้วยที่นี่ตั้งอยู่ใจกลางของเกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) กลุ่มแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกนั่นเอง
4. Great Barrier Reef
แนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก ตั้งอยู่ตลอดแนวชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์ ตั้งแต่ทางฝั่งเมือง Bundaberg ซึ่งอยู่ทางใต้ของรัฐ ยาวขึ้นไปถึงทางด้านเหนือของเมือง Cape York รวมระยะทางทั้งหมดมากกว่า 3,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยแนวปะการังอยู่ห่างจากชายฝั่งตั้งแต่ 15-150 กิโลเมตร และบางช่วงยังกว้างถึง 65 กิโลเมตรเลยล่ะ ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่จะต้องเต็มไปด้วยปะการังมากกว่า 400 ชนิด และพืชต่าง ๆ ที่อยู่ใต้น้ำอีกนับไม่ถ้วน รวมทั้งสัตว์ทะเลอีกมากกว่า 1,500 สายพันธุ์ ตลอดแนวปะการัง ก็จะมีเกาะแก่งมากมายด้วยเช่นกัน และบนเกาะเหล่านี้ก็จะมีที่พักสุดหรูให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวชมมากมาย หรือใครที่รักการดำน้ำ ก็อย่าได้พลาดกับการดำดิ่งลงสู่ใต้ท้องทะเล เพื่อชมความมหัศจรรย์ของโลกใต้น้ำที่นี่กันด้วย
5. Uluru
โขดหินสุดอัศจรรย์ชื่อดังของโลก ตั้งอยู่ภายใน Uluru-Kata Tjuta National Park ของดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (Northern Territory) ตอนกลางของประเทศออสเตรเลีย มีลักษณะเป็นโขดหินสีอิฐแดงขนาดใหญ่ สูงราว ๆ 348 เมตร ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเพียงแค่ลูกเดียวกลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็คือการมาชมพระอาทิตย์ขึ้น-ลงที่นี่ เพื่อชมความสวยงามยามที่แสงอาทิตย์อาบทอลงสู่ผิวของโขดหิน เป็นความงดงามที่จะทำให้คุณตราตรึงภาพนี้ไปตลอดกาล
6. Bondi Beach
อีกหนึ่งชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของออสเตรเลีย ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลแทสมันของเมืองซิดนีย์ มีลักษณะเป็นชาวหาดโค้งเว้า ยาวราว ๆ 7 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวซิดนีย์และนักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดแห่งนี้สะอาด เหมาะแก่การทำกิจกรรมริมชายหาดหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นวอลเลย์บอลชายหาด, การนอนอาบแดด, การขี่จักรยานตามเส้นทางเลียบชายหาด ฯลฯ และกิจกรรมฮอตฮิตที่สุดก็คือการเล่นเซิร์ฟบอร์ดนั่นเอง
7. The Three Sisters
ตั้งอยู่ภายใน Blue Mountains World Heritage Area รัฐนิวเซาท์เวลส์ มีลักษณะเป็นแท่งหินทรายสีแดง-ส้ม 3 แท่ง ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงราว ๆ 900 เมตร มีอายุมากกว่าพันปีเลยทีเดียว โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะนั่งเคเบิลบาร์ขึ้นไปเที่ยวชมความสวยงามของที่นี่ พร้อมกับชื่นชมความงดงามของป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ราวกับโลกในยุคดึกดำบรรพ์ มีเส้นทางรถไฟที่ชันที่สุดในโลกให้ได้ไปตื่นเต้นกัน หรือถ้าใครมีแรงมากพอจะเดินขึ้นบันไดมากกว่า 800 ขั้น เพื่อไปสัมผัสกับยอดเขาทั้ง 3 กันแบบใกล้ชิดก็ได้เช่นกัน
8. Fraser Island
ตั้งอยู่ในทะเลคอรัล (Coral Sea) บริเวณชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์ เป็นเกาะที่เกิดจากการก่อตัวของทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยาวมากถึง 123 กิโลเมตร และมีเนื้อที่ทั้งหมดราว ๆ 166,000 เฮกตาร์เลยทีเดียว ความพิเศษของที่นี่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะ Fraser Island ยังเป็นเพียงเกาะเดียวที่มีป่าดงดิบขึ้นอยู่บนเนินทรายบนความสูงกว่า 200 เมตร ทำให้ธรรมชาติของเกาะแห่งนี้สวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ และก็ยังมีทะเลสาบน้ำจืด Lake McKenzie ตั้งอยู่กลางเกาะอีกด้วย นี่จึงเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ทำให้ Fraser Island พิเศษไม่น้อยหน้าไปกว่าที่ไหนในโลก และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย
9. Hobart
เมืองโฮบาร์ต เป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจของออสเตรเลีย ตั้งอยู่ที่รัฐแทสเมเนีย ซึ่งเป็นเกาะกลางทะเลระหว่างมหาสมุทรอินเดียและทะเลแทสมันทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย และด้วยความที่เมืองโฮบาร์ตตั้งอยู่ริมฝั่งทะเล ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของผู้คน และแน่นอนว่าที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติสุด ๆ เพราะฉะนั้นห้ามพลาดกับการออกไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบเมือง แล้วคุณจะต้องตกหลุมรักโฮบาร์ตอย่างแน่นอน
10. Mount Kosciuszko
หลายคนคงแทบไม่อยากจะเชื่อว่าออสเตรเลีย สามารถเล่นสกีในฤดูหนาวกับเขาได้ด้วยเหมือนกัน เพราะด้วยลักษณะของภูมิประเทศที่ดูจะแห้งแล้ง และเต็มไปด้วยทุ่งหญ้ากว้าง ๆ แต่อันที่จริงแล้วออสเตรเลียมีหลากหลายภูมิประเทศ โดยเฉพาะที่ Mount Kosciuszko ซึ่งเป็นยอดเขาสูงที่สุดของออสเตรเลีย ตั้งอยู่ภายใน Kosciuszko National Park รัฐนิวเซาท์เวลส์ ทุกฤดูหนาวที่นี่จะมีหิมะตกและปกคลุมไปทั่วยอดเขา จนกลายเป็นสถานที่เล่นสกียอดนิยมของชาวออสเตรเลีย นักท่องเที่ยวจะได้สนุกสนานไปกับการเล่นกีฬาฤดูหนาว และเต็มอิ่มกับอากาศที่หนาวเย็น พร้อมกับเล่นหิมะนุ่ม ๆ ได้อย่างจุใจ
Sydney Opera House หรือโรงอุปรากรซิดนีย์ สัญลักษณ์สำคัญของเมืองซิดนีย์และประเทศออสเตรเลีย ที่นี่ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวซิดนีย์ นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดให้เข้าชมเป็นครั้งในแรกในปี 1973 โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานในการเปิดงาน ที่นี่ออกแบบโดย Jorn Utzon สถาปนิกชาวเดนมาร์ก การออกแบบโรงละครแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นงานออกแบบสถาปัตยกรรมที่ฉีกกฎงานออกแบบเดิม ๆ ในสมัยนั้นออกไปได้อย่างมาก ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของงานออกแบบสถาปัตยกรรมโลกเลยทีเดียว โดยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 2007 ปัจจุบันนอกจากที่นี่จะเป็นโรงละครหลักของเมืองซิดนีย์แล้ว ก็ยังเป็นที่เที่ยวห้ามพลาดของออสเตรเลียด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ใกล้ ๆ กับโรงละครแห่งนี้ ก็ยังมี Sydney Harbour Bridge อีกหนึ่งที่เที่ยวสำคัญซิดนีย์ให้ได้ไปเที่ยวชมกันด้วย
2. The Great Ocean Road
The Great Ocean Road เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวในฝันของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยถนนเส้นนี้นั้นได้ทอดยาวเลียบชายฝั่งทะเลของเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ ได้นั่งมองวิวของท้องทะเลสุดกว้างใหญ่ สูดอากาศสดชื่นบริสุทธิ์เข้าปอดกันแบบเต็มที่ อีกทั้งยังได้ยลโขดหินริมทะเลรูปร่างสวยงามแปลกตาที่เรียกว่า Twelve Apostles มีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งอยู่ในทะเลริมชายหาด เราจะเห็นริ้วชั้นหินที่สวยงาม เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นได้อย่างเพอร์เฟคท์สุด ๆ
3. Whitehaven Beach
Whitehaven Beach ตั้งอยู่บนเกาะ Whitsundays อันเป็นส่วนหนึ่งในเกาะแก่งของรัฐควีนแลนด์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่สวยงามมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งถูกจัดอันดับโดยเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง Whitehaven Beach มีลักษณะเป็นชายหาดสีขาวยาว 7 กิโลเมตร หากมองจากทางอากาศเราจะเห็นชายหาดแห่งนี้อย่างโดดเด่น ด้วยเนื้อทรายนั้นขาวสะอาดมาก และยังเนียนละเอียดราวกับผงแป้ง การได้สัมผัสเนื้อทรายที่นี่จะทำให้คุณรู้เลยว่านี่แหละสวรรค์ที่แท้จริง นอกจากนี้บริเวณโดยรอบของชายหาด Whitehaven Beach ยังเต็มไปด้วยปะการังที่สวยงามมากมาย ด้วยที่นี่ตั้งอยู่ใจกลางของเกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) กลุ่มแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกนั่นเอง
4. Great Barrier Reef
แนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก ตั้งอยู่ตลอดแนวชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์ ตั้งแต่ทางฝั่งเมือง Bundaberg ซึ่งอยู่ทางใต้ของรัฐ ยาวขึ้นไปถึงทางด้านเหนือของเมือง Cape York รวมระยะทางทั้งหมดมากกว่า 3,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยแนวปะการังอยู่ห่างจากชายฝั่งตั้งแต่ 15-150 กิโลเมตร และบางช่วงยังกว้างถึง 65 กิโลเมตรเลยล่ะ ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่จะต้องเต็มไปด้วยปะการังมากกว่า 400 ชนิด และพืชต่าง ๆ ที่อยู่ใต้น้ำอีกนับไม่ถ้วน รวมทั้งสัตว์ทะเลอีกมากกว่า 1,500 สายพันธุ์ ตลอดแนวปะการัง ก็จะมีเกาะแก่งมากมายด้วยเช่นกัน และบนเกาะเหล่านี้ก็จะมีที่พักสุดหรูให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวชมมากมาย หรือใครที่รักการดำน้ำ ก็อย่าได้พลาดกับการดำดิ่งลงสู่ใต้ท้องทะเล เพื่อชมความมหัศจรรย์ของโลกใต้น้ำที่นี่กันด้วย
5. Uluru
โขดหินสุดอัศจรรย์ชื่อดังของโลก ตั้งอยู่ภายใน Uluru-Kata Tjuta National Park ของดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (Northern Territory) ตอนกลางของประเทศออสเตรเลีย มีลักษณะเป็นโขดหินสีอิฐแดงขนาดใหญ่ สูงราว ๆ 348 เมตร ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเพียงแค่ลูกเดียวกลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็คือการมาชมพระอาทิตย์ขึ้น-ลงที่นี่ เพื่อชมความสวยงามยามที่แสงอาทิตย์อาบทอลงสู่ผิวของโขดหิน เป็นความงดงามที่จะทำให้คุณตราตรึงภาพนี้ไปตลอดกาล
6. Bondi Beach
อีกหนึ่งชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของออสเตรเลีย ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลแทสมันของเมืองซิดนีย์ มีลักษณะเป็นชาวหาดโค้งเว้า ยาวราว ๆ 7 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวซิดนีย์และนักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดแห่งนี้สะอาด เหมาะแก่การทำกิจกรรมริมชายหาดหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นวอลเลย์บอลชายหาด, การนอนอาบแดด, การขี่จักรยานตามเส้นทางเลียบชายหาด ฯลฯ และกิจกรรมฮอตฮิตที่สุดก็คือการเล่นเซิร์ฟบอร์ดนั่นเอง
7. The Three Sisters
ตั้งอยู่ภายใน Blue Mountains World Heritage Area รัฐนิวเซาท์เวลส์ มีลักษณะเป็นแท่งหินทรายสีแดง-ส้ม 3 แท่ง ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงราว ๆ 900 เมตร มีอายุมากกว่าพันปีเลยทีเดียว โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะนั่งเคเบิลบาร์ขึ้นไปเที่ยวชมความสวยงามของที่นี่ พร้อมกับชื่นชมความงดงามของป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ราวกับโลกในยุคดึกดำบรรพ์ มีเส้นทางรถไฟที่ชันที่สุดในโลกให้ได้ไปตื่นเต้นกัน หรือถ้าใครมีแรงมากพอจะเดินขึ้นบันไดมากกว่า 800 ขั้น เพื่อไปสัมผัสกับยอดเขาทั้ง 3 กันแบบใกล้ชิดก็ได้เช่นกัน
8. Fraser Island
ตั้งอยู่ในทะเลคอรัล (Coral Sea) บริเวณชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์ เป็นเกาะที่เกิดจากการก่อตัวของทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยาวมากถึง 123 กิโลเมตร และมีเนื้อที่ทั้งหมดราว ๆ 166,000 เฮกตาร์เลยทีเดียว ความพิเศษของที่นี่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะ Fraser Island ยังเป็นเพียงเกาะเดียวที่มีป่าดงดิบขึ้นอยู่บนเนินทรายบนความสูงกว่า 200 เมตร ทำให้ธรรมชาติของเกาะแห่งนี้สวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ และก็ยังมีทะเลสาบน้ำจืด Lake McKenzie ตั้งอยู่กลางเกาะอีกด้วย นี่จึงเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ทำให้ Fraser Island พิเศษไม่น้อยหน้าไปกว่าที่ไหนในโลก และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย
9. Hobart
เมืองโฮบาร์ต เป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจของออสเตรเลีย ตั้งอยู่ที่รัฐแทสเมเนีย ซึ่งเป็นเกาะกลางทะเลระหว่างมหาสมุทรอินเดียและทะเลแทสมันทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย และด้วยความที่เมืองโฮบาร์ตตั้งอยู่ริมฝั่งทะเล ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของผู้คน และแน่นอนว่าที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติสุด ๆ เพราะฉะนั้นห้ามพลาดกับการออกไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบเมือง แล้วคุณจะต้องตกหลุมรักโฮบาร์ตอย่างแน่นอน
10. Mount Kosciuszko
หลายคนคงแทบไม่อยากจะเชื่อว่าออสเตรเลีย สามารถเล่นสกีในฤดูหนาวกับเขาได้ด้วยเหมือนกัน เพราะด้วยลักษณะของภูมิประเทศที่ดูจะแห้งแล้ง และเต็มไปด้วยทุ่งหญ้ากว้าง ๆ แต่อันที่จริงแล้วออสเตรเลียมีหลากหลายภูมิประเทศ โดยเฉพาะที่ Mount Kosciuszko ซึ่งเป็นยอดเขาสูงที่สุดของออสเตรเลีย ตั้งอยู่ภายใน Kosciuszko National Park รัฐนิวเซาท์เวลส์ ทุกฤดูหนาวที่นี่จะมีหิมะตกและปกคลุมไปทั่วยอดเขา จนกลายเป็นสถานที่เล่นสกียอดนิยมของชาวออสเตรเลีย นักท่องเที่ยวจะได้สนุกสนานไปกับการเล่นกีฬาฤดูหนาว และเต็มอิ่มกับอากาศที่หนาวเย็น พร้อมกับเล่นหิมะนุ่ม ๆ ได้อย่างจุใจ
- ลูกบาส
- ที่ปรึกษาการท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 087-586-0909
- 02-735-0909 ต่อ 222
- bass@wtravel.co.th
- Line ID : @edctravel
- ทัศดาว
- ที่ปรึกษาการท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 084-772-0110
- 02-735-0909 ต่อ 111
- tuss@edc-booking.com
- Line ID : edctravel1
- เตยหอม
- ที่ปรึกษาการท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 065-226-4794
- 027350909 ต่อ 160
- toei@edctravel.co.th
- Line ID : edctravel3
- คุณจ้ะเอ๋
- ที่ปรึกษาตั่วเครื่องบินในประเทศ-ต่างประเทศ องค์กรเอกชน, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ ลูกค้าทั่วไป
- 086-312-8800
- 02-735-0909 ต่อ 130
- edcticket@edc.co.th
- Line ID : edcticket1
- คุณเนตร
- ที่ปรึกษาตั่วเครื่องบินในประเทศ-ต่างประเทศ องค์กรเอกชน, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ ลูกค้าทั่วไป
- 061-462-6914
- 02-735-0909 ต่อ 140
- netrsai@edc.co.th
- Line ID : edctravel
- ลูกตุ้ม
- ที่ปรึกษาตั่วเครื่องบินในประเทศ-ต่างประเทศ องค์กรเอกชน, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ ลูกค้าทั่วไป
- 086-366-2511
- 02-735-0909 ต่อ 170
- ticket@edc.co.th
- Line ID : edcticket