23.55 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ  เคาน์เตอร์สายการบิน China Southern (CZ) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน 

ที่พัก

  03.00 น. ออกเดินทางสู่ มหานครกว่างโจว โดย สายการบิน China Southern (CZ) เที่ยวบินที่ CZ3036   ** บริการอาหารบนเครื่อง **

  06.55 น. เดินทางถึงสนามบิน กว่างโจวไป๋หยุน นำท่านผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นพักผ่อนภายในสนามบินเพื่อรอต่อเครื่อง 

  08.30 น. ออกเดินทางสู่ นครหลานโจว มณฑลกานซู่ โดยสายการบิน China Southern (CZ)  เที่ยวบินที่ CZ8985  ** บริการอาหารบนเครื่อง ** 

  11.35 น. เดินทางถึง สนามบินหลานโจวจงฉวน นครสีทองตำตามนานแห่งราชวงศ์ฮั่น ซึ่งมีความสำคัญรองมาจากเมืองซีอานเท่านั้นเอง ทำหน้าที่เป็นประตูสู่เส้นทางสายไหม เชื่อมดินแดนตะวันตกและตะวันออกของจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับสองพันปี จากนั้นนำท่านรับสัมภาระแล้วออกเดินทาง

  กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1) 
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ อนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง ตั้งอยู่บริเวณฝั่งใต้ของแม่น้ำเหลืองในเมืองหลานโจว มณฑลกานซู ใกล้สวนสาธารณะเสี่ยวซีหู งานศิลปะชิ้นนี้ถือเป็นหนึ่งในประติมากรรมที่สะท้อนความงดงามของแม่น้ำเหลืองและแฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง เป็นสัญลักษณ์แห่งสายสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติและมนุษย์ ประติมากรรมนี้สร้างจากหินแกรนิตสีแดง ความยาว 6 เมตร กว้าง 2.2 เมตร และสูง 2.6 เมตร โดยเลือกใช้วัสดุที่สะท้อนถึงสีของแม่น้ำเหลืองและสื่อถึงผิวพรรณของชนชาติจีน สัมผัสที่หยาบกร้านของหินแกรนิตยังบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและความเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมาของชนชาติจีน ประกอบด้วยรูปปั้นของแม่และเด็กที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนและความสุข แสดงถึงแม่น้ำเหลืองที่เลี้ยงดูชาวจีนให้เจริญรุ่งเรือง    นำท่านชม สวนกังหันน้ำ สวนขนาดใหญ่อันเปรียบเสมือนตัวแทนของเมืองหลานโจว  ประติมากรรมและโครงสร้างที่บอกเล่าเรื่องราว ซุ้มประตูไม้ที่ประดับประดาหน้าทางเข้าหลักของสวนเป็นสัญลักษณ์ของ "ภูเขา" และ "แม่น้ำ" สะท้อนถึงธรรมชาติของเมืองหลานโจวที่รายล้อมด้วยภูเขาและสายน้ำ จำลองวิถีชีวิตและการใช้พลังงานน้ำในอดีต พร้อมช่องน้ำที่ไหลผ่านอย่างสง่างาม สวนศิลปะแห่งนี้มิได้เป็นเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังเป็นเวทีแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาและศิลปะแห่งธรรมชาติ มาร่วมสัมผัสความงดงามและเรียนรู้ตำนานแห่งแม่น้ำเหลืองได้ที่นี่   

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2)  เมนู หม้อตุ๋นป้ายทอง
นำท่านเดินทางสู่ ตลาดกลางคืนเจิ้งหนิงลู่ ถนนอันเปรียบเสมือนถนนแห่งอาหารและสตรีทฟู้ดของเมือง ที่เต็มไปด้วยอาหารมากมายหลายแขนง ที่รวบรวมมาจากทั่วเมืองจีนให้เลือกทานกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่หลานโจวแห่งเสเหลียง ข้าวบรียานีสไตล์จีน ช่วนช่วนปิ้งย่างและอีกมากมาย    สมควรแก่เวลานำท่านเข้าสู่ที่พัก

  ที่พัก LANZHOU ANSHENG INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 3)  
นำท่านสู่ เมืองจางเย่ (ระยะทาง 503 ก.ม. ใช้เวลาเดินประมาณ 5.5 ชั่วโมง)  ดินแดนอันเป็นที่อยู่ของเย่จือ (ชาวป่าเถื่อนเผ่าหนึ่งที่อยู่นอกจงหยวน)  เมืองยุทธศาสตร์บนแถบเส้นทางสายไหม เริ่มสร้างขึ้นในช่วงสมัยราชวงศ์ฉิน เพื่อปกป้องพรมแดนตะวันตกจากพวกซงหนู ต่อมาเป็นจุดพักของเหล่าคาราวานพ่อค้าที่มักตั้งแคมป์ริมโอเอซิสและแม่น้ำรั่ว ปัจจุบันเป็นเมืองสำคัญของการเดินทางจากตอนกลางไปยังภาคตะวันตกของจีน

  กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4)   
บ่าย ท่านเดินทางกลับ วัดพระใหญ่จางเย่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจางเย่ มณฑลกานซู เป็นหนึ่งในศาสนสถานสำคัญบนเส้นทางสายไหมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี ด้วยสถาปัตยกรรมที่สง่างาม วัดแห่งนี้เคยเป็นสถานที่สำคัญของราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์หยวน มาร์โค โปโล นักเดินทางชาวอิตาลีผู้มีชื่อเสียงก็ยังเคยพักแรมอาศัยในวัดนี้ระหว่างการเดินทางสำรวจเส้นทางสายไหมอีกด้วย นำท่านนมัสการ พระพุทธรูปปางนิพพาน สัมผัสความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปยาว 34.5 เมตร ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระวิหารใหญ่ มีใบหน้าสงบนิ่งและเปี่ยมไปด้วยความเมตตา พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “พระพุทธรูปปางนิพพานในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก” คลุมด้วยกระเบื้องสีเขียว สะท้อนความสง่างามของสถาปัตยกรรมในยุคราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์ชิง ทั้งยังมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องไซอิ๋ว จิตรกรรมขนาดใหญ่ที่บอกเล่าเรื่องราวจาก "ไซอิ๋ว" สะท้อนความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรมของดินแดนแห่งนี้

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  (มื้อที่ 5)     
นำท่านอิสระแวะชิมแวะชม ถนนคนเดินเมืองจางเย่ ไข่มุกเรืองรองแห่งเส้นทางสายไหม" ถนนคนเดินเมืองจางเย่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่ากานโจว เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์บนเส้นทางสายไหม แสงไฟที่สาดส่องในยามค่ำคืนเปรียบเสมือนเพชรน้ำงามที่ส่องประกายอยู่ท่ามกลางเมืองเก่า สถานที่แห่งนี้รวบรวมความงามของสถาปัตยกรรมโบราณ ศิลปะวัฒนธรรม และอาหารเลิศรสไว้อย่างลงตัว ถูกรังสรรค์ให้มีความคล้ายคลึงกับภาพ "เมืองในฝัน" ของราชวงศ์หมิงและชิง ตลอดทางเดินมีอาคารเก่าแก่ที่งดงาม สะพานหินแกะสลัก และบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมือง ถนนคนเดินแห่งนี้เต็มไปด้วยอาหารที่หลากหลาย ทั้งอาหารจีนตะวันตกเฉียงเหนืออย่างเนื้อย่าง ขนมพื้นบ้าน และอาหารสดใหม่ที่ผสมผสานรสชาติจากทั่วประเทศ 

  สมควรแก่เวลานำท่านเข้าสู่ที่พัก ที่พัก ZHANGYE METROPOLIS HOLIDAY HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 6) 
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาสายรุ้งจางเย่ (รวมรถอุทยาน)  หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามที่สุดของจีน ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 50 ตารางกิโลเมตร เขาสายรุ้งจางเย่ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่เกิดจากการกัดเซาะของลม น้ำ และแสงแดด กว่า 2 ล้านปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยสีสันอันหลากหลายและงดงาม เสน่ห์แห่งเขาสายรุ้ง อันได้แก่ สีสันหลากเฉดสี: แดง ส้ม เหลือง เขียว และน้ำตาล สลับซับซ้อนเป็นลวดลายเหมือนจิตรกรรมชิ้นเอกของธรรมชาติ รูปร่างแปลกตา: โดดเด่นด้วยยอดเขาและหน้าผาที่มีลักษณะเป็นชั้นๆ และหินรูปร่างแปลกตา ทั้งหอคอย ปราสาท และเจดีย์หิน บรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา: แสงแรกของวันสาดส่องให้เขาสายรุ้งดูเรืองรองยามเช้า ในขณะที่พระอาทิตย์ตกดินสร้างภาพที่อบอุ่นและน่าหลงใหล  

  กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7) 
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองจิ่วฉวน (ระยะทาง 223 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมง) อีกหนึ่งเมืองหน้าด่านที่สร้างขึ้นในช่วงสงครามฮั่น-ซงหนู ตามตำนานกล่าวว่าแม่ทัพฮั่วชีปิงได้เทเหล้าที่ได้รับจากฮ่องเต้ลงในลำธารเพื่อให้ทหารทุกนายได้ดื่ม เป็นการปลุกใจทหารในการทำศึก และนั้นทำให้เป็นชื่อที่มาของเมือง (จิ่วฉวน แปลว่า แม่น้ำสุรา) ทั้งยังเป็นเมืองหลวงของเหล่าชนกลุ่มน้อย ไม่ว่าจะเป็น อุยกูร์ ตังกุต ทิเบต ซุงการ์ และอีกมากมายในประวัติศาสตร์หลายร้อยปีก่อน    นำท่านชม กำแพงเมืองจีน ด่านเจียยวี่กวน (รวมรถอุทยาน)  ณ จุดบรรจบแห่งประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ ป้อมเจียยวี่กวนตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเจียยวี่กวน มณฑลกานซู ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร บนหุบเขาที่แคบที่สุดของเทือกเขาเจียยวี่ ป้อมปราการอันแข็งแกร่งนี้คือปลายทางด้านตะวันตกของกำแพงเมืองจีนอันยิ่งใหญ่ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1372 ในสมัยราชวงศ์หมิง และใช้เวลาก่อสร้างถึง 168 ปี จนกลายเป็นกำแพงที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นด้วยระบบป้องกันที่ซับซ้อน มีทั้งกำแพงด้านใน กำแพงด้านนอก และคูเมือง ทำให้เกิดโครงสร้างสามชั้นที่ซ้อนกันอย่างประณีต พร้อมหอคอยทั้ง 14 แห่งที่แสดงถึงความล้ำสมัยทางการทหารในยุคโบราณ ท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันตระการตาของกำแพงเมืองจีนที่ทอดตัวเหมือนมังกรพาดผ่านทะเลทรายและเทือกเขาหิมะ เส้นขอบฟ้าผสมผสานระหว่างธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่ สร้างประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน   

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  (มื้อที่ 8) 
  สมควรแก่เวลานำท่านเข้าสู่ที่พัก ที่พัก JIAYUGUAN YUANDONG HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 9)
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองตุนหวง (ระยะทาง 369 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ตุนหวง หรือที่รู้จักในชื่อ "ซาโจว" ตั้งอยู่ปลายทางด้านตะวันตกของเส้นทางสายไหมในมณฑลกานซู ประเทศจีน เมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของศิลปะและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองมากว่า 2,000 ปี ตุนหวงมีภูมิศาสตร์ที่โดดเด่น ด้วยลักษณะ "แอ่งตุนหวง" ซึ่งพื้นที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเลทราย ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงามและลึกลับไม่เหมือนใคร ตุนหวงถือกำเนิดขึ้นในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ก่อนคริสต์ศักราช 111 ปี) และกลายเป็นจุดศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก วัฒนธรรมที่หลอมรวมกันผ่านเส้นทางสายไหมทำให้ที่นี่เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่เปี่ยมด้วยความหมาย

  กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10)   
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เนินทรายครวญ หรือทะเลทรายหมิงซาซาน (ระยะทาง 66 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ชั่วโมง) ปาฏิหาริย์แห่งธรรมชาติกลางผืนทะเลทรายในดินแดนแสนลึกลับของตุนหวง เมืองศิลปะและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ มีสถานที่หนึ่งที่ทำให้ผู้มาเยือนต้องตกตะลึงในความมหัศจรรย์ นั่นคือ "หมิงซาซาน" (เนินทรายครวญ) และ  สระวงพระจันทร์ ท่ามกลางวงล้อมของเนินทรายหมิงซาซาน มีสระน้ำตั้งอยู่อย่างสงบงดงาม รูปร่างของสระน้ำคล้ายพระจันทร์เสี้ยว สีฟ้าครามตัดกับสีทองของทราย เป็นภาพที่งดงามเกินบรรยาย สองสิ่งมหัศจรรย์ที่ผสานกันอย่างลงตัวในใจกลางทะเลทรายกว้างใหญ่ สถานที่แห่งนี้ถูกยกย่องว่าเป็น “หนึ่งในทัศนียภาพอันงดงามที่สุดของเส้นทางสายไหม” และยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกและอุทยานธรณีโลกจากยูเนสโก นำท่าน ขี่อูฐล่องทะเลทราย ชมบรรยากาศฟังเสียงกระดิ่งอูฐขณะเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่ทอดยาวจนสุดสายตา นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสไลด์ทราย ขับรถเอทีวี และอีกมากมาย ** หมายเหตุ หน่วยงานท่องเที่ยวไม่อนุญาตให้ผู้สูงอายุที่อายุเกินกว่า 60 ปี ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก ขี่อูฐ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าขี่อูฐ แต่จะเปลี่ยนเป็นการเดินทางโดยใช้รถแบตเตอรี่แทน เนื่องจากค่าใช้จ่ายรวมอยู่ในตั๋วเข้าอุทยานแล้ว ทั้งนี้รายการกิจกรรมอาจมีการสลับสับเปลี่ยนลำดับก่อนหลังตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ   

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  (มื้อที่ 11) เมนู หม้อไฟบุฟเฟต์
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองตุนหวง นั้นนำท่านอิสระช็อปปิ้ง ณ ตลาดกลางคืนซาโจว หนึ่งในตลาดที่ใหญ่และครึกครื้นที่สุดของแถบเหอซี จากทำเลของเมืองตุนหวงที่เสมือนเบ้าหลอมรวมอารยธรรมทั้งจากตะวันตกและตะวันออก เลือกทานอาหารจากนานาประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อาหารชาวหุย อุยกูร์ มองโกล ทิเบต คาซัค คีร์กีซ และอีกมากมายให้เลือกชิมเลือกทานกันอย่างจุใจ   

  สมควรแก่เวลานำท่านเข้าสู่ที่พัก ที่พัก DUNHUANG FUHUA  HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 12)   
นำท่านชม ถ้ำแกะสลักม่อเกา (ระยะทาง 30 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) สิ่งมหัศจรรย์ที่สะท้อนความเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตกในอดีต นั่นคือ ถ้ำม่อเกาคู  หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ถ้ำพระพันองค์" อันเป็นศูนย์รวมศิลปะพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ถูกขนานนามว่าเป็น "ศิลปะบนเส้นทางสายไหมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" เริ่มต้นการสร้างในปี พ.ศ. 909 โดยพระเล่อจุน ผู้ซึ่งพบแสงทองส่องประกายเหมือนพระพุทธรูปนับพันที่ภูเขาเฟิงหวง และเริ่มสร้างถ้ำแรกเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ถ้ำนี้เจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องในยุคต่าง ๆ ตั้งแต่ ราชวงศ์เหนือ-ใต้ จนถึง ราชวงศ์หยวน รวมระยะเวลากว่า 1,000 ปี มีถ้ำทั้งหมด 735 แห่ง รวมพื้นที่กว่า 45,000 ตารางเมตร และ รูปปั้นดินเหนียวประดับสี กว่า 2,400 องค์ ภายในถ้ำมีการแสดงออกถึงความงดงามใน 3 มิติ แสดงถึงความซับซ้อนของโครงสร้างถ้ำ ภาพวาดฝาผนัง ที่เล่าเรื่องราวพระพุทธศาสนา และ รูปปั้น ที่สะท้อนถึงฝีมือช่างอันปราณีต ถ่ายทอดเรื่องราวพุทธศาสนา ชีวิตประจำวัน ศิลปะดนตรี และวัฒนธรรมจากหลากหลายอารยธรรม   

  กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13) 
บ่าย ท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟเมืองหลิวหยวน (ระยะทาง 151 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เพื่อนั่งรถไฟความเร็วสู่ เมืองทูลูฟ่านหรือทูลูฟาน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง) เมืองโอเอซิสอันชุ่มชื้นที่มีเพียงไม่กี่แห่งด้วยระบบน้ำใต้ดินที่หล่อเลี้ยงชาวเมือง นับตั้งแต่ชาวโทคาเรียนตั้งรกร้าง ณ ดินแดนแห่งนี้เมื่อสามพันปีก่อน ปัจจุบันเป็นเมืองที่ผลิตองุ่นและเบอร์รี่ที่ถือว่าอร่อยที่สุดของจีน  หมายเหตุ รถไฟอาจจะมีการเปลี่ยนขบวนเวลา ขอสงวนสิทธิ์จัดขบวนและเวลาตามความเหมาะสม การเดินทางด้วยรถไฟ ท่านจะต้องทำการยกกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง และภายในสถานีอาจจะไม่มีบันไดเลื่อนหรือลิฟต์เปิดให้บริการ   

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14) เมนู ปิ้งย่าง BBQ  จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก 
  ที่พัก TURPAN HUOSHANHONG HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 15)   
นำท่านชม ภูเขาเปลวเพลิง ตั้งตระหง่านเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สะท้อนความงดงามของธรรมชาติและมนต์ขลังของตำนานจีนในยุคโบราณ ภูเขานี้ไม่เพียงแต่เป็นแลนด์มาร์กที่น่าประทับใจ แต่ยังเป็นแหล่งแรงบันดาลใจในงานวรรณกรรมและวัฒนธรรมมาช้านาน ภูเขาเปลวเพลิงทอดยาวกว่า 100 กิโลเมตร ในแนวตะวันออก-ตะวันตก และกว้างที่สุดถึง 10 กิโลเมตร ประกอบด้วยหินทรายสีแดงและหินดินดานที่เกิดจากการสะสมตัวในยุคไดโนเสาร์เมื่อกว่า 170 ล้านปีก่อน ลักษณะของหินที่ถูกกัดเซาะตามธรรมชาติทำให้เกิดลวดลายที่ดูเหมือนเปลวไฟลุกโชติช่วง ภูเขาเปลวเพลิงเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับวรรณกรรมจีนเรื่อง "ไซอิ๋ว" ซึ่งเล่าถึงการเดินทางของพระถังซัมจั๋งและลูกศิษย์ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคของภูเขาไฟร้อนระอุ และการยืมพัดวิเศษของเจ้าแม่กวนอิมเพื่อดับไฟ โดยตำนานเหล่านี้เพิ่มความลี้ลับและมนต์เสน่ห์ให้กับสถานที่แห่งนี้อย่างยิ่ง นอกจากนี้ ตามความเชื่อของชาวอุยกูร์ในพื้นที่ ยังมีเรื่องเล่าถึงมังกรร้ายที่ถูกวีรบุรุษฆ่าตาย เลือดของมันได้ย้อมภูเขาให้กลายเป็นสีแดงเปรียบดังเปลวไฟ    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเกาชาง ตั้งอยู่ใจกลางแอ่งทูรูฟาน รายล้อมด้วยภูมิประเทศทะเลทรายแห้งแล้งและภูเขาที่งดงาม ห่างจากตัวเมืองทูรูฟานในเขตปกครองตนเองซินเจียงไปทางทิศตะวันออกประมาณ 40 กิโลเมตร แหล่งโบราณสถานแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 220 เฮกตาร์ บรรจุเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 1,400 ปี เป็นตัวแทนแห่งความรุ่งเรืองและการผสมผสานทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่บนเส้นทางสายไหม เคยเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และศาสนา ตั้งแต่ยุคฮั่นตะวันตก (ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช) จนถึงยุคมองโกลในศตวรรษที่ 14 เมืองแห่งนี้ได้รับการก่อสร้างและพัฒนาต่อเนื่องผ่านหลายยุคสมัย ทั้งในฐานะศูนย์กลางการค้าบนเส้นทางสายไหมและแหล่งรวมศาสนาหลากหลาย เช่น พุทธ มานีกี และศาสนาพื้นเมืองในภูมิภาค แหล่งโบราณสถานแห่งนี้ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ เมืองชั้นนอก เมืองชั้นใน และพระราชวัง (ที่เรียกว่า "คะห์ข่านฟอร์ท") โครงสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่ยังคงเหลือร่องรอยของความรุ่งโรจน์ในอดีต เช่น ซากวัด ศาลา และจิตรกรรมฝาผนังพุทธศิลป์ที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีการค้นพบโบราณวัตถุและเอกสารโบราณหลายภาษา ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมในยุคนั้นอีกด้วย

  กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 16) 
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองอูรูมู่ฉี (ระยะทาง 151 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)  เมืองหลวงและเมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ชื่ออูรูมู่ฉี คาดว่าได้มาจากภาษามองโกเลียที่แปลว่า เขตเลี้ยงสัตว์อันสวยงาม ปัจจุบันเป็นเมืองการค้าที่ส่งต่อจากเขตอุตสากรรมทางตะวันออกไปยังยุโรปผ่านเส้นทางสายไหมใหม่ในโครงการ BRI 

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 17) 
  จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก  ที่พัก URUMQI SHANGDE INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม  (มื้อที่ 18)   
นำท่านอิสระช็อปปิ้ง ณ ตลาดแกรนด์บาซาร์ (ต้าปาจา) หรือ แกรนด์บาซาร์ หรือที่ในภาษาอุยกูร์แปลว่า "ตลาดนัด" ถือเป็นหัวใจของวิถีชีวิตและการค้าขายของชาวอุยกูร์ ไม่ว่าจะเป็นในเมืองใหญ่หรือหมู่บ้านเล็กๆ บาซาร์กระจายอยู่ทั่วไปทั่วทุกมุมของภูมิภาคนี้ เป็นสถานที่ที่เชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร ผู้ค้า และผู้คนในชุมชน สะท้อนถึงความมีชีวิตชีวาและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง และบาซาร์แห่งนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่กว่า 39,888 ตารางเมตร และอาคารรวมกว่า 100,000 ตารางเมตร บาซาร์แห่งนี้เป็นศูนย์กลางที่รวบรวมศิลปะ วัฒนธรรม การค้า และการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันออกกลาง ในบาซาร์ ไม่เพียงแค่เป็นแหล่งซื้อขายสินค้า แต่ยังเป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์ ผู้คนสามารถแลกเปลี่ยนเรื่องราว เล่าข่าวคราว และสัมผัสชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยสีสัน ความมีชีวิตชีวานี้ทำให้บาซาร์เป็นดั่ง "เวทีชีวิต" ที่รวมเอาหลากหลายมิติของวัฒนธรรมและเศรษฐกิจเข้าไว้ด้วยกัน

  กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 17) 
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอุรุมชีติโวพู เช็คอิน ณ เคาน์เตอร์สายการบิน China Southern (CZ)

  16.45 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินกว่างโจวไป๋หยุน โดย สายการบิน  China Southern เที่ยวบินที่ CZ6881  ** บริการอาหารบนเครื่อง **

  21.55 น. เดินทางถึงสนามบิน กว่างโจวไป๋หยุน นำท่านผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นพักผ่อนภายในสนามบินเพื่อรอต่อเครื่อง 

  23.35 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบิน  China Southern เที่ยวบินที่ CZ3035  ** บริการอาหารบนเครื่อง **

  01.30 น.+1 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

ที่พัก