Romantic South Italy เมืองคาปัว...ชมอัฒจันทร์โบราณที่ให้เห็นถึงร่องรอยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ เข้าชมเมืองเก่าบนยอดเขาที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในอิตาลีใต้ มาเทร่า, เมืองที่มีมนุษย์อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องมายาวนานมากที่สุดในโลก(กว่า 10,000 ปี)
18.15 น.สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4เคาร์เตอร์สายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ (เคาเตอร์ Q) เจ้าหน้าที่คอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง
21.15 น. ออกเดินทางสู่กรุงโดฮา โดยสายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR833
ที่พัก -
00.05 น. เดินทางถึงกรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
01.25 น. ออกเดินทางสู่โรม โดยสายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR123
06.40 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติฟูมิชิโน(กรุงโรม) ประเทศอิตาลี หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่ “เมืองโบราณปอมเปอี” (Pompei) นำท่านชมเมืองโบราณ 2,000 ปี ที่ถูกทำลายโดยลาวาของภูเขาไฟ วิโซเวียส ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดเอาดินโคลนเถ้าถ่าน และหินละลายทับถมจมลงไปในดินในชั่วเวลาไม่กี่นาทีเมื่อ พ.ศ.662 ประชาชนนับหมื่นต้องถูกฝังทั้งเป็นตายด้วยความทุกข์ทรมาน โดยไม่มีโอกาสหนีรอดออกมาได้เลย และปอมเปอี ก็ถูกลืมไปจากความทรงจำของชาวโลกต่อมาได้มีการฟื้นฟูศึกษาประวัติศาสตร์โบราณชื่อปอมเปอีจึงถูกค้นพบแต่ไม่มีใครทราบว่าอยู่ที่ไหน จนกระทั่ง พ.ศ.2291 ได้พบร่องรอยของซากเมือง เมื่อรื้อดินที่ทับถมออกมาหมดแล้วก็พบซากเมืองที่ใหญ่โต และสร้างด้วยหินอย่างแข็งแรง บางแห่งพบ “ ซากชาวปอมเปเอียน และสัตว์เลี้ยงของเขาที่ตายกลายเป็นหินยังคงสภาพเดิมทุกประการ ” แต่ทว่าภาพนั้นจะเห็นลักษณะของความหวาดกลัวต่อความตายได้เป็นอย่างดีบางคนนั่งเอามือปิดหน้าตายบางคนนั่งซบกับกำแพงบ้านตายก็มี ปอมเปอีจึงได้ชื่อว่า “ซากเมืองแห่งความตาย”
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซอร์เรนโต้ (SORRENTO) ที่มาของเพลง “คัมแบค ทู ซอร์เรนโต้ ” เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพสวยงาม โดยเฉพาะเวลาตอนที่พระอาทิตย์อัสดง ด้วยเส้นทางที่คดเคี้ยวและถนนค่อนข้างแคบทำให้เราได้ชมความสวยงามตลอดเส้นทางจนถึงเมืองซอร์เรนโต้(รถจะขับช้า) จากนั้นนำท่านชมเมืองซอร์เรนโต้ เมืองตากอากาศเล็กๆ ริมทะเล ตัวเมืองซอร์เรนโตนั้นตั้งอยู่บนหน้าผาสูง และไล่ระดับลงมาตามความลาดชันจนลงมาถึงระนาบเดียวกันกับชาย หาดทรายสีเทาที่ได้รับการจัดระเบียบไว้อย่างเรียบร้อย และมีชายฝั่ง Amalfi ที่เลียบริมทะเลไปตามหน้าผายาวถึง 50 กม. นำท่านชม จัตุรัสทาซโซ่ (Piazza Tasso) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง เป็นจัตุรัสที่เต็มไปด้วยสีสันของร้านรวงที่ตั้งเรียงรายตลอดสองข้างทางของถนนสายที่ได้ชื่อว่าเป็นช้อปปิ้งสตรีทอันมีชื่อเสียงของเมืองซอร์เรนโต้ พร้อมทั้งยังได้ชมวิถีชีวิตของผู้คนพื้นเมืองที่นิยมมานั่งจิบกาแฟ หรือมานั่งพูดคุยสังสรรค์กันในร้านอาหาร นำท่านชมบริเวณโดยรอบจัตุรัสทาซโซ่ ที่เต็มไปด้วยโบสถ์ วิหาร ที่มีความโดดเด่นงดงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบบารอค อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองหรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย จากนั้นมีเวลาให้ทุกท่านเดินเล่นชมความงดงามของอ่าวเนเปิ้ลจากบริเวณสวนวิลล่า โคมูนาเล่ (Villa Comunale Park, Sorrento) เป็นสวนสไตล์อิตาเลียนใต้ที่สวยงามเป็นจุดชมวิว ภูเขาไฟวิสุเวียส เป็นจุดยอดนิยมสำหรับนั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน มีม้านั่ง, โรงละครโอเปร่า สวนสาธารณะแห่งนี้ก็เหมาะสำหรับทุกวัยจริงๆ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่คุณต้องไปเยี่ยมชมเมื่ออยู่ในซอร์เรนโต
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่: Hotel Cristina Sorrento / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
ที่พัก Hotel Cristina Sorrento / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเฟอร์รี่ ออกเดินทางสู่ “เกาะคาปรี” (Capri Island) / นำท่านล่องเรือชมทิวทัศน์อันสวยงามของเกาะคาปรี ท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม น้ำทะเลสีน้ำเงินเข้ม นำท่านชมความงามของ “ถ้ำบลูกรอตโต้” (BLUE GROTTO) ถ้ำนี้ถูกค้นพบเมื่อปี 1826 มีขนาดกว้าง 45 เมตรและยาว 54 เมตร สูง 15 เมตร ทางเข้าถ้ำสูงจากระดับน้ำทะเลเพียงเมตรเศษๆ (ในกรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือระดับน้ำสูงเกินอาจงดรายการชมถ้ำบลูกอตโต้ เนื่องจากไม่ปลอดภัย) นำท่านนั่งเรือเข้าสู่บริเวณ “มาริน่า แกรนด์เด” (Marina Grande) ท่าเรือที่สวยงามของ “เกาะคาปรี” (รถจะมารับกระเป๋าเล็กของทุกท่านไปส่งยังโรงแรมที่พัก) จากนั้นนำท่านโดยสารรถราง (FUNICULAR) สู่ย่านกลางเมืองของเกาะคาปรี(จัตุรัสอูมแบร์โต) จัตุรัสแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางของเมืองที่คึกคัก ผู้คนจะนิยมมาเดินรอบๆ จัตุรัสที่เต็มไปด้วย ร้านอาหาร ร้านค้า ร้านแฟชั่นที่มีชื่อเสียง มีหอนาฬิกาที่ตั้งเด่นใจกลางจัตุรัส และยังมีจุดชมวิวเมืองที่ใกล้กัน
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคารถ้องถิ่น
นำท่านเดินชมเกาะคาปรี สถานที่ตากอากาศของชนชั้นสูงมาตั้งแต่สมัยโรมันเรืองอำนาจ(จักรพรรดิออกุสตุส (Augustus) ผู้ยิ่งใหญ่) และยังคงไว้ซึ่งมนต์เสน่ห์แห่งความงามมาจนถึงทุกวันนี้ บรรดากวีและนักเขียนชื่อดังต่างก็บอกในงานเขียนเป็นเสียงเดียวกันว่า “ที่คาปรีสวรรค์อยู่ใกล้ๆ เพียงแค่ปรายตามอง” นำท่านเดินสู่จุดชมวิว ณ “สวนออกัสตัส” (Augustus Garden) สวนแห่งนี้ เป็นสวนที่เต็มไปด้วยพืชพรรณหายาก และมีความสวยงาม ร่มรื่น ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อถวายแก่
จักรพรรดิแห่งโรมัน สวนแห่งนี้ประกอบไปด้วนระเบียงที่มองเห็นทะเล มีไม้ประดับและดอกไม้นานาชนิดให้เยี่ยมชมมากมาย และยังได้เห็นวิวแบบพาโนรามา 180 องศาของเกาะคาปรีอีกด้วย มีเวลาให้ท่านชื่นชมกับบรรยากาศที่ทำให้คาปรีมีเสน่ห์เป็นที่หลงใหลของนักท่องเที่ยว อดีตเคยเป็นที่ประทับตากอากาศของจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมัน ที่โปรดให้เป็นวิมานฉิมพลีริมฝั่งทะเล
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Hotel Cristina Sorrento / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
ที่พัก Hotel Cristina Sorrento / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
ได้เวลาสมควรนำท่านโดยสารเรือเดินทางกลับสู่ท่าเรือซอร์เรนโต้ จากนั้นนำท่านลัดเลาะตามเส้นทางท่องเที่ยวชายฝั่งอมาลฟี่ (Amalfi Coast) สู่เส้นทางสวรรค์อิตาลีใต้ เป็นแนวชายฝั่งทางตอนใต้ของอ่าวซาเลอร์โน(Salerno) ทางตอนใต้ของอิตาลี ชายฝั่งอมาลฟี ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก ด้วยสถานที่อันสวยงามของ Amalfi coast คืออ่าวที่มีเสน่ห์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและเป็นหนึ่งในชายฝั่งที่งดงามที่สุดของทวีปยุโรปถนนชายฝั่งที่คดเคี้ยวผ่านหมู่บ้านชาวประมงบนหน้าผาสูงชัน มีวิวทิวทัศน์อันอันสวยสดงดงาม และความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมยุคกลางปัจจุบันชายฝั่งอมัลฟีได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดชาวอิตาเลียนและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางถึงเมือง “โพสิตาโน” (Positano) นำท่านเดินชมเมืองโปสิตาโน(Positano) เป็นเมืองที่ถือว่างดงามที่สุดในบรรดาเมืองแถบนี้ ตัวเมืองตั้งอยู่บริเวณเวิ้งอ่าวรูปครึ่งวงกลม ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนฉาบปูนระบายสีอย่างสวยงาม ตั้งลดหลั่นกันมาจากเนินเขาลงสู่ทะเล โดยจุดศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวจะอยู่บริเวณย่านมาริน่า แกรนด์เด่(Marina Grande) จะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านไอศกรีมมากมาย
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำเดินทางต่อสู่ “เมืองอมัลฟี” (Amalfi) ในอดีตเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าทางทะเลในยุคไบแซนไทน์ศูนย์กลางเมืองอยู่บริเวณจัตุรัสดุโอโม อันเป็นที่ตั้งของน้ำพุ เซนต์ แอนดรูว์ (Sant’Andrea Fontana) มหาวิหารประจำเมือง (Amalfi Duomo) มีประตูสำริดจากศตวรรษที่ 11 ภาพโมเสก และ สุสานใต้ดินของเซนต์ แอนดรูว์ที่อัญเชิญพระศพมาจากกรุงคอนสแตนติโนเปิ้ล เมื่อปีค.ศ.1208 รอบๆจัตุรัสมีร้านค้า ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกอยู่มากมายส่วนชายทะเลที่ติดท่าเรือนั้น เหมาะจะเป็นจุดชมทิวทัศน์อาคารบ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นอยู่บนเชิงเขา เป็นภาพที่งดงามไม่แพ้โปสิตาโน นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองราเวลโล่ (Ravello) เมืองแสนสวยที่อยู่บนเนินเขาสูง เดินทางถึงหมู่บ้านราเวลโล่ ที่มีความงามน่ารัก ด้วยความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น จตุรัสกลางเมืองเล็กๆที่แตกต่างจากเมืองอื่นๆ จึงได้รับการบรรจุไว้ในส่วนหนึ่งของ มรดกโลกของอิตาลี ในปี ค.ศ.1997 จากองค์การยูเนสโก นอกจากนี้หมู่บ้านราเวลโล่ ยังเป็นสถานที่ที่ศิลปินดัง อย่าง ริชาร์ด วาร์กเนอร์ ศิลปินชาวเยอรมันเคยมาแสดงคอนเสิร์ต จนทำให้มีการจัดเทศกาลคอนเสิร์ตที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นประจำทุกปี นำท่านเข้าชม “วิลล่า รูโฟโล” (VILLA RUFOLO) เป็นปราสาทเก่า และมีสวนแสนสวยอยู่ภายใน ปราสาทแห่งนี้เคยศูนย์กลางประวัติศาสตร์ในย่านจัตุรัสหลักของเมืองราเวลโล ถูกสร้างขึ้นอย่างหรูหราในสไตล์มัวร์ ประมาณปี ค.ศ.1270 ภายในวิลล่าได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสวนไม้ดอกไม้ประดับ รวมไปถึงหอคอยโบราณสูงประมาณ 30 เมตร อิสระท่านชื่นชมบรรยากาศและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จนได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่เมืองซาเลอร์โน (Salerno)
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่: Hotel Novotel Salerno Est Arechi / Royal Continental Hotel / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
ที่พัก Hotel Novotel Salerno Est Arechi / Royal Continental Hotel / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่เมืองเปสตุม (Paestum) เปสตุม เป็นแหล่งโบราณคดีเก่าแก่สมัยกรีกโบราณ ก่อตั้งในช่วง 600 ปีก่อนคริสตกาล ในเมืองเปสตุม มีพิพิธภัณฑ์และแหล่งโบราณคดีกลางแจ้งมากมาย นำท่านชมวิหารทั้งสามที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง “วิหารอธีน่า, วิหารเฮร่า และวิหารโพไซดอน” เก็บภาพวิหารอธีน่ามีขนาดเล็กที่สุดและตั้งอยู่โดดเดี่ยว ส่วนวิหารอยู่คู่กัน วิหารเฮร่า ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในบรรดาวิหารทั้งสามซึ่งยังคงอยู่ในสภาพที่ดี จนเป็นสถาปัตยกรรมของอาณานิคมกรีกในศตวรรษที่ 6 ที่สมบูรณ์แบบที่สุด นอกจากวิหารแล้ว ยังมีซากอาคารบ้านเรือนรวมถึงพื้นกระเบื้องโมเสคชิ้นเล็กๆ, Amphitheatre ขนาดเล็ก, Forum และอื่นๆ / นำท่านเดินทางสู่ “เมืองคาสเทลเมสซาโน”(Castelmezzano)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมเมืองคาสเทลเมสซาโนเมืองโบราณที่น่ารักตั้งอยู่ในจังหวัดโพเทนซ่า ในแคว้นบาซิลิกาต้า (Basilicata) เมืองนี้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในประเทศอิตาลี สร้างอยู่ในหุบเขา เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่มีสถาปัตยกรรมที่แปลกตา แรกเดิมเป็นถิ่นฐานของชาวกรีกราวศตวรรษที่ 5-6 แต่การเข้าไปชมเมืองแสนสวยแห่งนี้ก็ไม่ธรรมดา ต้องลอดผ่านอุโมงค์ ข้ามช่องเขา เพื่อเข้าสู่ดินแดนที่น่าค้นหาแห่งนี้ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองมาเทรา(Matera) ผ่านชมเมืองต่างๆระหว่างทาง แวะเก็บภาพตัวเมืองมาเทราจากจุดชมวิว จากนั้นนำท่านเข้าสู่เมืองมาเทรา เมืองโบราณที่มีผู้คนอยู่อาศัยมาตังแต่ยุคหิน เป็นเมืองที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเทียบเคียงกับเมืองเจริโค
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Nazionale Hotel Matera / หรือระดับเทียบเท่า
ที่พัก Nazionale Hotel Matera / หรือระดับเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินชมเขต Sassi di Matera เมืองที่เคยได้ชื่อว่ายากจนที่สุดในอิตาลี และไม่มีไฟฟ้าใช้รวมถึงน้ำประปาจากรัฐบาลกลาง จนถึงปี ค.ศ.1950 ได้เกิดโรคระบาดรัฐบาลอิตาลีจึงได้สร้างเมืองใหม่และได้อพยพผู้คนออกจากเขตเมืองนี้ทั้งหมด ต่อมาภายหลังเมืองมาเทราได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1993 รัฐบาลอิตาลีจึงเข้ามาปรับปรุงและประยุกต์บ้านถ้ำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว, ร้านอาหารและโรงแรมสุดหรู นำท่านเข้าชมโบสถ์ถ้ำ San Pietro Caveoso ชมงานเขียนเฟสโก้ที่งดงามอายุกว่าพันปี ชมจัตุรัสต่างๆ ที่สวยงาม บ้านเรือนที่สร้างอยู่ในถ้ำ หินปูนและบางหลังสร้างซ้อนกันขึ้นไปแบบที่ท่านไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน นำท่านเดินชมเมืองเก่าโดยเริ่มต้นจากจตุรัสวิทโทริโอ(Piazza Vittorio Veneto) จนถึงจตุรัสจัตุรัสดูโอโม (Matera’s Cathedral) เสมือนเป็นศูนย์กลางของเมืองเก่ามีเวลาให้ท่านเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่หมู่บ้านเมืองอัลเบโรเบลโล (Alberobello) (60 กม.) อัลเบโรเบลโล ตั้งอยู่ในภูมิภาคอาปูเลีย(Apulia) ของอิตาลี มีชื่อเสียงเนื่องจากสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ บ้านเรือนท้องถิ่นมีหลังคารูปกรวยที่เรียกว่าทรงทรูลี่(Trolli) ตัวบ้านเรือนสร้างจากหินปูนมีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี นำท่านเดินชมหมู่บ้านอัลเบโรเบลโลที่ น่ารัก ที่เต็มไปด้วยร้านค้าร้านกาแฟ รวมถึงร้านของที่ระลึกมากมาย เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1996และเป็นจุดหมายที่นิยมมาท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีใต้ ***แนะนำให้ท่านซื้อนกหวีดที่ทำจากดินเหนียวเป็นสัญลักษณ์ของชาวปูเลีย นิยมใช้เป็นของฝากแก่เพื่อนหรือคนที่เรารักเพื่อนำความโชคดีมาให้***
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารเมนูพาสต้าเส้น Orecchiette ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองอย่างแท้จริง
พักที่: Astoria Hotel / Hotel Ramapendula Alberobello / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
ที่พัก Astoria Hotel / Hotel Ramapendula Alberobello / หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองเลชเช่ (Lecce) ที่เสมือนเป็นอัญมนีที่ถูกซ่อนไว้ของแคว้นปูเลีย เลยทีเดียว(1.20 ชั่วโมง) นำท่านเดินเล่นชมเมืองเก่าเลคเช ถือว่าเป็นเมืองสไตล์บาโรกที่สวยงามมาก และยังคงมีร่องรอยวัฒนธรรมกรีกให้เห็นกันอยู่ทั่วเมือง อาคารสูงใหญ่หรูหราที่สร้างจากหินปูนเรียงรายกันอยู่ สัมผัสถึงความเป็นมาอันยาวนาน ชม “The Celestini Palace” หรือ Palazzo dei Celestini ปราสาทราชวังเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 ภายใต้สถาปัตยกรรมแบบบาโรก ปัจจุบันที่นี่ได้รับการอนุรักษ์จากรัฐบาลทำให้ทั้งโครงสร้างด้านใน และด้านนอกยังคงแข็งแรง ทั้งยังถูกใช้เป็นที่ว่าการของเมืองเลชเช่ นำท่านชมมหาวิหารซานตา โครเช่ “Basilica di Santa Croce” จุดสำคัญที่สุดเลชเช่ มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ เป็นสถานที่ชื่นชอบของบรรดานักประวัติศาสตร์ศิลปะ มหาวิหารแห่งนี้เริ่มสร้างตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1549 – ค.ศ. 1582 มีความสวยงามโดดเด่นด้วยการแกะสลักหินที่สวยงาม ตกแต่งซุ้มด้านหน้าด้วยรูปปั้นสัตว์หน้าตาแปลกประหลาด ท่านจะเห็นหน้าต่างบานใหญ่ตรงกลางที่แกะสลักเป็นรูปกุหลาบซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะแบบกรีกโรมัน ชมโรมันแอมฟีเธียเตอร์ The Roman Ampthitheatre อัฒจันทร์กลางแจ้งที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 2 ของโรมัน เป็นอัฒจันท์ขนาดใหญ่ และพื้นที่แสดงตรงกลาง เคยใช้เป็นสถานที่ต่อสู้ของเหล่า Gladiator รวมไปถึงการแข่งขัน และการแสดงอื่น ๆ ในอดีต เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่แห่งความบันเทิงของชาวเลชเช่ในยุคโบราณ อิสระทุกท่านเก็บภาพตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางเข้าสู่เมืองบารี(Bari) บารีเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคอาปูเลียในเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดที่แห่งหนึ่งของอิตาลีใต้ มีท่าเรือและมหาวิทยาลัย เมืองบารีแบ่งเป็นเขตต่างๆ ทางทิศเหนือเป็นเมืองเก่าที่สร้างขึ้นริมทะเลระหว่างท่าเรือสองแห่งที่ทันสมัยกับมหาวิหารเซนต์นิโคลัส, วิหารซานซาบิโนและปราสาท Hohenstaufen สร้างขึ้นสำหรับกษัตริย์เฟรเดอริคที่สอง ทางทิศใต้คือย่านมูรัต (Murat) เขตเมืองที่ทันสมัยย่านช็อปปิ้งสำคัญ นำท่านเก็บภาพปราสาทซเวโว (Castello Svevo) แลนด์มาร์คหลักของบารี ตัวปราสาทตั้งอยู่ริมทะเลอเดรียติก (Adriatric Sea) มีที่กำแพงป้องกันล้อมรอบ แต่เดิมเป็นที่ตั้งของป้อมปราการอาณาจักรโรมันและไบแซนไทน์ และได้รับการบูรณะโดยจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์เฟรดเดอริกที่ 2 ภายหลังได้ถูกสร้างเพิ่มเติมและตกแต่งใหม่โดยกษัตริย์ แห่ง อาร์รากอน อิสระทุกท่านเก็บภาพความงามตามอัธยาศัย นำท่านเดินเข้าสู่เขตเมืองเก่าบริเวณจตุรัสเมอร์ชานไทล์ (Piazza Mercantile) เป็นบริเวณที่พลุกพล่านไปด้วยคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ในบริเวณนี้ยังเป็นท่าเรือที่สามารถข้ามฟากไปยังเมืองดูบรอฟนิค ประเทศโครเอเชียได้อีกด้วย นำท่านเก็บภาพโบสถ์เซนต์นิโคลัส (The Basilica of San Nicola) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1197 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของนักเดินเรือ จากนั้นมีเวลาให้ท่านเดินเล่นหรือช้อปปิ้งของต่างๆตามอัธยาศัย / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Nicolaus Hotel Bari / หรือเทียบเท่าระดับใกล้เคียง
ที่พัก Nicolaus Hotel Bari / หรือเทียบเท่าระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองเนเปิลส์ เมืองแห่งประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เมืองเนเปิลส์ (Naples) หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี (Napoli) ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลี เป็นเมืองที่ร่ำรวยทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและยังเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มาตลอด 2,800 ปีนับแต่ก่อตั้งเมืองขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เมืองเนเปิลส์ จึงถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะบริเวณใจกลางของเมืองเนเปิลส์ยังเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นมรดกโลก ในปี 1995 เเละที่สำคัญก็คือที่เมืองเเห่งนี้เป็นเมืองแรกในโลกที่เริ่มมีการทำพิซซ่า จึงนับได้ว่าเป็นเมืองต้นตำหรับของพิซซ่าอย่างเเท้จริง
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม โบสถ์โบสถ์คัปเปลลา ซานเซเวโร (Capella Sansevero)(ต่อคิวประมาณ 45 นาที) เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองเนเปิลส์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหินอ่อนแกะสลัก “พระเยซูสวมผ้าคลุมหน้า” (Veiled Christ) เป็นผลงานของกุยเซปเป่ ซานมาร์ติโน (Giuseppe Sanmartino)โบสถ์คัปเปลลา ซานเซเวโร (Capella Sansevero) เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 รวบรวมผลงานทางศิลปะ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาของอิตาลี มีภาพวาดบนฝาผนังแสดงถึงเรื่องราวในศาสนาคริสต์ และประติมากรรมหินอ่อนที่หรูหรา ได้เวลาสมควรจากนั้นนำท่านเข้าสู่ช้อปปิ้งเอาท์เลท ลา เรคเกีย (Designer Outlet La Reggia) เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมมากมายในราคาพิเศษโดยเฉพาะแบรนด์ชั้นนำของอิตาลี เช่น Armani , Bally, Bulgari, Burberry, Calvin Klein, Camper, Diesel, Hugo Boss, L'Occitane , Lacoste, Loewe, Michael Kors, Polo Ralph Lauren, Quiksilver, Ray-Ban, Samsonite, Spazio Dolce & Gabbana, Swarovski, Swatch, TAG Heuer, Timberland, Tommy Hilfiger, Versace, etc.
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: NH Napoli Panorama Hotel / หรือเทียบเท่าระดับใกล้เคียง
ที่พัก NH Napoli Panorama Hotel / หรือเทียบเท่าระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านออกเดินทางกลับสู่กรุงโรม ผ่านชมวิวที่สวยงามระหว่างทาง / เดินทางถึงกรุงโรมนำคณะท่านเดินทางเข้าสู่ “ นครรัฐวาติกัน ” “ ประเทศเอกราช ” หรือ “ รัฐอิสระที่เล็กที่สุดในโลก ” ***พิเศษสุด...นำท่านเดินเข้าชมภายในของ “พิพิธภัณฑ์วาติกัน”(Sistine Chapel) เป็นพิพิธภัณฑ์ทางด้านศาสนาและศิลปะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในนครรัฐวาติกัน เป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมผลงานทางศิลปะของศาสนจักร คาทอลิกที่มีอายุหลายร้อยปีไว้ให้ชม โดยเฉพาะผลงานชิ้นเอกของศิลปินระดับโลกหลายท่าน เช่น ไมเคิล แอเจลโล(Michelangelo) และ ราฟาเอล(Raphael) แถมภายในยังได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามวิจิตร ท่านจะได้ชมภาพเขียนเฟสโกบนเพดานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะวาติกันอีกด้วยนั้นคือภาพ “The creation of Adam” ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของคนมาเที่ยวกรุงโรม
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าชมภายในของ “มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์” ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกที่มีขนาด “ ใหญ่ที่สุดในโลก ” ได้รับการออกแบบโดย “ ไมเคิลแองเจลโล ” นำท่านเข้าสู่ภายในมหาวิหารซึ่งประดับประดาไปด้วยงานศิลปะชิ้นเอกมากมาย อาทิเช่น “ ปิเอต้า ” (The Pieta) รูปแกะสลักหินอ่อนแม่พระมารีอุ้มพระศพของพระเยซูเจ้าไว้บนตัก เข้าชมภายใน “สนามกีฬาโคลอสเซียม” (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างเกือบสมบูรณ์ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม โดยนับเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมาในสมัยอาณาจักรโรมัน ระหว่างทาง ท่านจะสามารถชมความงดงามสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของกรุงโรม
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Hotel NH Collection Roma Centro หรือที่พักระดับใกล้เคียง
ที่พัก Hotel NH Collection Roma Centro หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านชมเมืองเก่ากรุงโรมระหว่างเส้นทาง ท่านจะสามารถชมความงดงามสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของกรุงโรม รถโค้ชจะนำท่านผ่านชมสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ “จัตุรัสเวเนเซีย” Piazza Venezia จตุรัสที่ยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงโรม ผ่านชมระเบียงปาลาสโซ สถานที่ใช้กล่าวสุนทรพจน์ของมุสโสลินีในโอกาสต่างๆ “อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพระบิดาของชาว อิตาลี “ประตูชัยคอนสแตนติน” สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม” จากนั้นชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิ โรมันอันศักดิ์สิทธิ์ “โรมันฟอรั่ม” จากนั้นนำท่านเดินเข้าชมความสวยงามของ “น้ำพุเทรวี่” น้ำพุเทรวี่นี้ถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่สร้างความประทับให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ส่วนกลางของน้ำพุนั้นมีรูปปั้นของเทพเจ้าเนปจูนขี่รถม้าติดปีกแสดงถึงความมีสุขภาพที่แข็งแรงและความอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักร จากนั้นเดินเข้าสู่เขตเมืองเก่าเพื่อเข้าชม ความมหัศจรรย์ของ “วิหารแพนธีออน” สถาปัตยกรรมจากยุคโรมันที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอิตาลี มีอายุเก่าแก่ประมาณ 2,000 กว่าปี วิหารแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 27 ปีก่อนคริสตกาล จุดเด่นที่น่าสนใจของวิหารแพนธีออน คือ การออกแบบ “ โดม ” ด้านบนของอาคารทำได้อย่างน่าอัศจรรย์ นำท่านเดินทางสู่ “ย่านบันไดสเปน” สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงโรม เป็นสถานที่นัดพบของหนุ่มสาววัยรุ่นของอิตาลีซึ่งในเขตบริเวณนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโรมันที่สวยงาม ให้ท่านได้ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกหรืออิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังนานาชนิด อาทิ Gucci ,Louis Vuitton ,Prada ,Bally ,Chanel ฯลฯ ได้เวลาสมควรออกเดินทางสู่สนามบินฟูมิชิโน่
16.35 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯโดยสายการบินกาต้าร์แอร์เวย์เที่ยวบินที่ QR 132
23.00 น. เดินทางถึงกรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
ที่พัก -
02.25 น. เหินฟ้าสู่กรุงเทพฯโดยสายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 836
13.15 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
ที่พัก -