14.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 เคาน์เตอร์สายการบินอินดิโก เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
17.10 น. ออกเดินทางจากสู่ เดลลี Indigo โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E1054
**หมายเหตุ** ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง
เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที þ
19.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี เมืองนิวเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าสัมภาระ
เมืองเดลี (Delhi) หรือชื่ออย่างเป็นทางการ ดินแดนเมืองหลวงแห่งชาติเดลี (National Capital Territory of Delhi) ย่อว่า เอ็นซีที (NCT) เป็นนครและดินแดนสหภาพของประเทศอินเดีย ประกอบด้วย นิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดีย...นำท่านเดินทางสู่โรงแรม
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก: Novotel Aero City New Delhi หรือเทียบเท่า
ที่พัก Novotel Aero City New Delhi หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่านเยี่ยมชม ออร์ชาร์ฟอร์ท (Orcha Fort) ที่พำนักของมหาราชาแล้วยังเป็นปราการด่านสุดท้ายของเมือง การออกแบบป้อมให้ออกมาแข็งแรงแน่นหนา และตั้งอยู่บนที่สูง ออร์ชาร์ก็มีป้อมขนาดใหญ่โตหลายแห่ง แต่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา กระเบื้องสีบางแห่งยังคงสีสันสดใส ถึงแม้จะแตกร่อนไปบ้างแต่ก็ยังคงรักษาสีสวยไว้ได้ นำท่านชม พระราชวังชฮานคีร์ มาฮาล (Jahangir Mahal) ที่สร้างขึ้นอย่างหรูหราอลังการ เพื่อต้อนรับ “พระเจ้าชฮานคีร์” แห่งราชวงศ์โมกุล เพียงเพื่อพัก 1 ราตรีอันเป็นวิเทโศบายทางการทูต ของกษัตริย์นครภัณฑลขัณฑ์ผู้ชาญฉลาด
นำท่านชม วัดจตุรภุชมนเทียร (Chaturabuj Mandir) คำว่า จตุรภุช แปลว่าผู้มีสี่ (จตุร-) แขน (ภุช) อันหมายถึงพระราม อวตารหนึ่งของพระวิษณุ โครงสร้างของหมู่อาคารในมนเทียรประกอบด้วยมนเทียรซึ่งมีความสูงหลายชั้น ป้อมปราการ และวังปัจจุบันภายในมนเทียรประดิษฐานเทวรูปองค์ประธานเป็นพระรธกฤษณะ นอกจากนี้มนเทียรยังเป็นที่รู้จักจากวิมานที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งด้วยความสูง 344 ฟุต วัดลักษมีนารายัน (Laxmi Narayan Temple Orchha) สร้างขึ้นในรัชสมัยของราชาบีร์ซิงห์ดีโอ เพื่ออุทิศแด่พระแม่ลักษมี (เทพีแห่งความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง) โครงสร้างเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมวัดและป้อมที่ผสมผสานกันอย่างมีเอกลักษณ์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ออกเดินทางไปที่
เมืองขชุราโห (Khajuraho) ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก Clarks Khajuraho หรือเทียบเท่าที่พัก Clarks Khajuraho หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านชม เขตโบราณสถานภีมเพตกะ(Rock Shelters of Bhimbetka) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง มวลหมู่ถํ้าพร้อมภาพเขียนโบราณสมัยหินใหม่กว่า500 ถํ้าแบ่งได้เป็น 5 ยุค ไล่จากหินเก่าตอนต้นมาถึงยุคประวัติศาสตร์ที่สุดในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของอินเดียจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในปี 2003ได้เวลาสมควร...เดินทางกลับโบพาล
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางไปสนามบินโบพาลเพื่อเดินทางไปเดลลี
18.00 น. บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
21.35 น. ออกเดินทางสู่ เดลลี โดยสายการบิน INDIGO เที่ยวบินที่ 6E 2279
22.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานเดลลี…เดินทางสู่โรงแรมที่พัก
เช้า บริการอาหารเช้า (แบบกล่อง)
จากนั้น นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองโกนาร์ก (Konark) ระยะทาง 70 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เข้าเยี่ยมชม วิหารสุริยเทพมรดกโลกเมืองโกนาร์ค (Konark Sun Temple) เมืองโกนาร์คคือเมืองเล็ก ๆที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวของอำเภอปูรี ในรัฐโอริสสารัฐที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกออกของประเทศซึ่งมีเมืองภุพเนศวร เป็นเมืองหลวงของรัฐ นอกจากนี้แล้วเมืองโกนาร์ดยังถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากเมืองหนึ่งของรัฐโอริสสาโดยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญและมีชื่อเสียงคือ วิหารสุริยะ หรือวัดโกนาร์ค วัดที่มีชื่อเสียงทางด้านความงามทางสถาปัตยกรรม ที่ตั้งอยู่บนชายหาดทะเลเบงกอล นำท่านชม เทวาลัยแห่งสุรยเทพ เป็นศาสนสถานสำหรับบูชาเทพพระอาทิตย์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 เทวสถานแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้แนวชายฝั่งทะเลของรัฐโอริสสาภาคตะวันออกของประเทศอินเดียหลังคาทรงพีระมิดนั้นโดดเด่นตัดกับเส้นขอบฟ้าและแนวของต้นมะพร้าวอย่างงดงาม ซากปรักหักพังบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองได้เป็นอย่างดี เป็นวิหารที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นเจดีย์สีดำเนื่องจากตัววิหารนั้นถูกสร้างขึ้นจากหินแกรนิตสีดำปัจจุบันวิหารแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศอินเดีย หลังจากนั้น องค์การยูเนสโก้ได้จัดให้วิหารสุริยะเป็นมรดกโลก ในปี 1984 อีกทั้งยังได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของอินเดียอีกด้วย เทวาลัยสุรยเทพ สร้างด้วยศิลาอันใหญ่ เทวลาลัยนี้แปลกกว่าที่อื่น ๆในอินเดีย และโลก เพราะสร้างเป็นรูปราชรถ ของสุริยเทพผู้ทรงราชรถท่องไปบนฝากฟ้า เปล่งรัศมีความร้อนและแสงสว่างแก่โลกตั้งแต่รุ่งอรุณจนสายัณห์ นักเดินเรือชาวยุโรปที่เดินทางมายังโกลกัตตา มองเห็นยอดสิขราสูงเด่นแต่ไกลจากทะเล ปัจจุบันวิหารแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศอินเดียองค์การยูเนสโก้ ได้จัดให้วิหารสุริยะเป็นมรดกโลกในปี 1984 อีกทั้งยังได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของอินเดียอีกด้วย ภายในสิขระเป็นห้องครรภหคฤหะที่ประดิษฐานเทวรูปที่เคารพสูงสุด จึงเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด มีแต่พราหมณ์ประกอบพิธีเท่านั้น ซึ่งจะยืนอยู่บนหลังช้าง หมายถึงชัยชนะของฮินดูต่อพระพุทธศาสนา
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่ เมืองปูริ (Puri) นำท่านชม หมู่บ้านมรดกรากูราชปูร์ (Raghurajpur Heritage Village) หมู่บ้านมรดกงานฝีมือ เป็นที่รู้จักจากจิตรกรฝีมือดี Pattachitra ซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะที่มีอายุย้อนไปถึง 5 ปีก่อนคริสตกาล...เดินทางกลับภูผเนศวร
16.50 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน INDIGO เที่ยวบินที่ 6E 1066
21.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
*****************