22.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 ROW S เคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตต์ Emirate Airline (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน
01.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 385 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
05.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)
08.25 น. ออกเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเที่ยวบินที่ EK087
12.25 น. เดินทางถึง สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำคณะผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย
จากนั้นนำคณะเดินทางกลับเข้าสู่ เมืองลูเซิร์น (Luzern) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดของประเทศ นำท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารหาญชาวสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อนุสาวรีย์นี้คือสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดมาที่นี่
พาท่านชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทอดยาวระหว่างแม่น้ำ Reuss โดยสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จากนั้น ให้ท่านได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วยตัวอาคารสไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่นร้าน
พิเศษเมนูสวิสชีสฟองดู
ที่พัก Radisson Blu Lucerne หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
**หลังจากเข้าที่พักท่านสามารถเพลิดเพลินกับเทศกาล Christmas Market Lucerne 2024 ของเมืองลูเซิร์น ที่บริเวณ Franziskanerplatz ได้เองตามอัธยาศัย *โปรดตรวจสอบเวลาปิดงานอีกครั้งก่อนเข้างาน
ซึ่งจะจัดในวันที่ 05 – 22 ธันวาคม 2024
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีมีงานเทรดแฟร์หรือเทศกาล)
ที่พัก Radisson Blu Lucerne หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) อดีตพระราชวังหลวงที่ปัจจุบันเป็นสถานที่เก็บและจัดแสดงสมบัติล้ำค่ากว่า 35,000 ชิ้น เช่น ภาพวาดโมนาลิซ่า, มาดอนน่า ออฟ เดอะ ร๊อค, ภาพวาดพระราชพิธีปราดาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียน, รูปปั้นเทพไนกี้ และรูปปั้นเทพวินัสแห่งมิโล เป็นต้น
จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือพีระมิดแก้วที่ ที่ออกแบบโดย ไอ.เอ็ม.เป. สถาปนิกชื่อดังชาวจีน-อเมริกัน ภายในพิพิธภัณฑ์ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนแรกคือ Richelieu ทางทิศเหนือ ส่วนที่สอง Sully เป็นอาคารสี่เหลี่ยมทางทิศตะวันออก และส่วนที่สาม Denon ทางทิศใต้ขนานกับแม่น้ำแซน แต่ละปีกมีห้องพักมากกว่า 70 ห้องแสดงภาพวาดและงานศิลปะที่เต็มไปด้วยประติมากรรม จุดที่น่าสนใจมากเป็นพิเศษจะอยู่ที่ ภาพเขียน Mona Lisa ที่มีรอยยิ้มอันลึกลับที่โด่งดัง สร้างขึ้นโดย Leonardo da Vinci เป็นงานศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดของพิพิธภัณฑ์
และยังมี ห้องชุดของนโปเลียนที่ 3 (Apartments of Napoleon III) ภายในห้องแตกแต่งอย่างหรูหรา ชุดเก้าอี้ โซฟา สีสันสดใสของผ้ากำมะหยี่สีแดงและสีทอง โคมไฟระย้าขนาดใหญ่ ภาพวาดบนเพดานที่สวยงาม และรูปปั้นประดับตกแต่งอย่างงดงาม
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านถ่ายรูปหอไอเฟลที่สวยที่สุด ณ จัตุรัสทรอกาเดโร (TROCADÉRO) แต่เดิมบริเวณนี้เคยใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ของประเทศอยู่หลายครั้ง แต่โด่งดังด้วยเพราะทัศนียภาพที่ท่านจะสามารถเห็น หอไอไฟล (EIFFEL) ได้อย่างไม่มีอะไรมาบดบัง โดยหอส่งสัญญาแห่งนี้นั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ของพาปารีสที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง หอไอเฟลนั้น ตั้งตามชื่อของสถาปนิกผู้ออกแบบ กุสตาฟ ไอเฟล เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในงาน แสดงสินค้าโลก ในปี 1889 เมื่อมีภาพยนตร์เรื่องใดที่จะกล่าวถึงปารีส ก็จะจะต้องมีโครงสร้างเหล็กเจ้าของความสูง 324 เมตร ที่เคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก แห่งนี้อยู่ด้วยเสมอ ด้วยลักษณะที่แปลกตา สร้างความไม่คุ้นเคยต่อชาวปารีส ถึงขนาดมีการเรียกร้องให้รื้อทิ้งหลังจากงานสิ้นสุดลง แต่หอไอเฟลก็สามารถพิสูจน์ตัวเองและลบคำสบประหม่า จนกลายเป็นสถานที่แรกๆ ที่เมื่อมีคนพูดถึง
นำท่านถ่ายรูปกับ ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ (ARC DE TRIOMPHE) วงเวียนที่เชื่อมถนน12 เส้นของปารีสไว้ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นสดุดีทหารฝรั่งเศสที่ร่วมรบในสงครามต่างๆ โดยเฉพาะในสงครามนโปเลียน เนื่องจากเริ่มสร้างในรัชสมัยของพระองค์หลังได้รับชัยชนะในสงครามยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1805 นอกเหนือจากนั้น ประตูชัยแห่งนี้ก็ยังเป็นที่ฝังศพทหารนิรนามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วยอาร์กเดอทรียงฟ์ มีความสูง 49.5 เมตร กว้าง 45 เมตร และหนาถึง 22 เมตร ทางทิศตะวันตกยังเป็นที่ตั้งของถนนสายที่โด่งดังที่สุดของโลกสายหนึ่ง นั่นคือ ถนนช็องเซลีเซ (CHAMPS-ÉLYSÉES) ถนนที่ได้ชื่อมาจากสวนสวรรค์ของเหล่าเทพปกรนัมกรีก ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายพื้นที่สวยหย่อมของพระราชวังตุยเลอรี ว่ากันว่าอัตราค่าเช่าพื้นที่บนถนนแห่งนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป และเป็นที่ตั้งของสินค้าแบรนด์ระดับโลกมากมายทั้ง Louis Vuitton, Hermès, Omega, Lacoste, Swarovski, Longchamp
เย็น อิสระอาหารเย็น เพื่อความสะดวกและไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล (Paris Charles de Gaulle Airport) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Vat Refund)
21.35 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน เที่ยวบินที่ EK076 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง **
07.20 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดูไบ ให้ท่านผ่อนคลายอริยบทระหว่างรอเวลาเปลี่ยนเครื่อง
09.30 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372
18.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม