06.00 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารขาออกชั้น 4 ประตูทางเข้าเบอร์ 6-8 เคาน์เตอร์ Q สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ (qr) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
09.05 น. ออกเดินทางสู่ ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดยเที่ยวบินที่ QR 831 /Qr 341 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
20.35 น. คณะเดินทางถึง ท่าอากาศยานลิสบอน ปอร์เตลา กรุงลิสบอน เมืองหลวงเก่าแก่มีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี ของประเทศโปรตุเกส เมืองที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้บนคาบสมุทรไอบีเรีย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำคณะเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก
พักค้างคืน ณ Radisson Blu Lisbon หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1 )
ที่พัก Radisson Blu Lisbon หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1 )
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 7)
จากนั้นนำท่านชมความงามของ เมืองมรดกโลกปอร์โต้ โดยเริ่มจาก ย่านจัตุรัสอเลียโดส หรือ (Praça dos Liberdade) เป็นจัตุรัสใจกลางเมืองปอร์โต้ ที่ประกอบด้วยอาคารสวยงามที่เป็นที่ทำการของธนาคารและโรงแรม และศาลาว่าการเมือง (City Hall) จัตุรัสแห่งนี้เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งรวมอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของปอร์โต้ อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสอเลียโดสแห่งนี้ จากนั้นนำท่านชม สถานีรถไฟ Sao Bento ซึ่งเป็นอาคารสถานีรถไฟโบราณ ภายในมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องเขียนสีและลวดลายสีน้ำเงินบอกเล่าเรื่องราวของชาวโปรตุเกสสวยงามมาก จากนั้นแวะถ่ายรูปกับโบสถ์หลักที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง โบสถ์ Se Catedral อายุกว่าพันปี โบสถ์แห่งนี้เป็นที่จัดงานอภิเษกสมรสของกษัตริย์ Joao ที่ 1 บิดาของเจ้าชายเฮนรี่ ผู้บุกเบิกการเดินเรืออันยิ่งใหญ่ของโปรตุเกสเพื่อออกแสวงดินแดนใหม่ จนโปรตุเกสมีอาณานิคมมากมายทั่ว โลก และโปรตุเกสคือประเทศตะวันตกประเทศแรกที่มาติดต่อกับไทยในปี พ.ศ. 2054 โบสถ์แห่งนี้สร้างอยู่บนเนินที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองและแม่น้ำ ดูว์โร เป็นจุดชมวิวที่สวย อีกจุดให้ท่านเก็บภาพประทับใจ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8)
นำท่านลงเรือ ล่องชมความงามสองฟากฝั่งแม่น้ำดูว์โร ผ่านชม Cais da Ribeira เรือขนไวน์โบราณ Rabelos ที่จอดเรียงรายให้ชื่นชมความเป็นมาของเมืองนี้และแม่น้ำดูว์โร สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่รุ่งเรืองมากในสมัยที่เป็นท่าเรือโบราณและตลาดค้าขายมาตั้งแต่สองสามร้อยปีก่อน บริเวณนี้จึงได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดก ออกเดินทางสู่ ซาลามังก้า เมืองหลักของจังหวัดซาลามังก้าในแคว้นคาสตีลและเลออง เมืองมีชื่อที่ได้ยินมานานแล้วโดยเฉพาะกิตติศัพย์ในเรื่องของความเก่าแก่และงดงาม เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีมนต์ขลังอีกเมืองหนึ่งทางภาคตะวันตกของประเทศสเปน บนที่ราบสูงริมแม่น้ำตอร์เมส ในอดีตเมืองซาลามังก้า เป็นเมืองที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการค้าขายเมื่อครั้งสมัยโรมันยังเรืองอำนาจอยู่
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 9)
พักค้างคืน ณ Gran Hotel Corona Sol หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4 )
ที่พัก Gran Hotel Corona Sol หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4 )
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 16)
นำคณะเที่ยวชมเมืองเก่าแก่นับพันปีตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียนเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านคณะ ถ่ายรูปด้านหน้าสนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในกรุงมาดริดของประเทศสเปน เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด เริ่มเปิดใช้สนามเมื่อ วันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1944 เดิมมีชื่อว่าเอสตาดีโอชามาร์ติน (Estadio Chamartín) ตามชื่อของสนามเดิมของสโมสร เปิดใช้สนามอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 1947 เรอัลมาดริดได้ประกาศใช้ชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ เอสตาดีโอซานเตียโก เบร์นาเบว เมื่อวันที่ 4 มกราคม 1955 เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานสโมสรคือ ซานเตียโก เบร์นาเบว เยสเต
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 17)
นำคณะเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆ ในกรุงแมดริด เริ่มต้นจาก ปลาซา เดอ เอส ปันญา อนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฮเต้และซันโซปันซาในสวนสาธารณะปลาซ่า มายอร์จัตุรัสหลวง ศูนย์กลางเมืองอันเก่าแก่ ถูกสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1620 จากนั้นนำคณะชมย่านเมืองเก่า พลาซ่าร์ มายอร์ เป็นจตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองเก่าอดีตใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นที่ประกอบพิธีราชาภิเษกและงานฉลองพิธีสำคัญ ๆ เป็นที่ประลองฝีมือของบรรดาอัศวิน และเคยเป็นแหล่งสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างทหารของนโปเลียนกับชาวสเปน ปัจจุบันยังคงมีบรรยากาศ และความงามสมัยศตวรรษที่ 1 นำท่านเข้าสู่ ย่าน ปูเอต้า เดล ซอล หรือ ประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าใหญ่อีกด้วย ถ่ายรูปคู่กับ อนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา สัญลักษณ์ของเมืองจากนั้นอิสระให้ท่านเดินเที่ยว walking street เลือกซื้อสินค้าต่างๆ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พื้นเมือง (มื้อที่ 18)
พักค้างคืน ณ Chamartin The One หรือเทียบเท่า (คืนที่ 7)
ที่พัก Chamartin The One หรือเทียบเท่า (คืนที่ 7)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 19)
นำท่านแวะถ่ายรูปที่ระลึกกับ สนามสู้วัวกระทิง Plaza de Toros ที่ชาวสเปนนิยมชมชอบการสู้วัว เนื่องด้วยเป็นวิถีโบราณแห่งการเอนเตอร์เทนที่เร้าใจมาช้านาน จากนั้นนำคณะเข้าชม พระราชวังหลวง ของกษัตริย์ฮวนคาลอส ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่น ๆในทวีปยุโรป เนื่องจากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของพระราชวังแวร์ซายส์ และความสวยงามของพระราชวังลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้างด้วยหินทั้งหลัง ในปี ค.ศ. 1738 ในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่าง ๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้นรวมทั้งสิ่งของมีค่าต่าง ๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ จากนั้นชม อุทยานหลวง ที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดทั้งปี จากนั้นทำท่านเดินทางสู่ เอาท์เล็ท Las Rozas Village หนึ่งในเอาท์เล็ทที่ดีที่สุดในมาดริดซึ่งขึ้นชื่อเรื่องส่วนลดของสินค้าเเบรนด์ดังมากมาย
18.00 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานมาดริด-บาราฆัส TAXREFUND พร้อมกับเช็คอินเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
22.30 น. เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ QR 152 /QR 828 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา ประเทศกาต้าร์ บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
19.19.25 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดี...พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม