สำหรับพีเรียดเดินทางตุลาคม
09:00น.            คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินแอร์อาราเบีย AirArabia (G9) เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านในการเตรียมตัวเดินทางและผ่านขั้นตอนการเช็คอิน
12:15น.            ออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบิน G9-824
                        (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง สามารถซื้อเพิ่มเติมได้)
                        บนเครื่องไม่มีจอ แต่มี QR Code สำหรับสแกนดูหนังผ่านมือถือหรือ ipad ของท่านได้
หมายเหตุ: ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องเนื่องจากเป็นไปตามระบบของสายการบิน
ซึ่งระบบการจองที่นั่งเป็นแบบสุ่มที่นั่งว่าง หากท่านมีความประสงค์ที่จะระบุที่นั่งบนเครื่องหรือเปลี่ยนที่นั่ง
จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่
15:40น.            เดินทางถึงสนามบินนานาชาติชาร์จาห์ (เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง)
19:15น.            ออกเดินทางสู่สนามบิน Sphinx International Airport เมืองกีซา ประเทศอียิปต์ โดยเที่ยวบิน G9-343
                        (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง สามารถซื้อเพิ่มเติมได้)
                        บนเครื่องไม่มีจอ แต่มี QR Code สำหรับสแกนดูหนังผ่านมือถือหรือ ipad ของท่านได้
หมายเหตุ: ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นังบนเครื่องเนื่องจากเป็นไปตามระบบของสายการบิน
ซึ่งระบบการจองที่นั่งเป็นแบบสุ่มที่นั่งว่าง หากท่านมีความประสงค์ที่จะระบุที่นั่งบนเครื่องหรือเปลี่ยนที่นั่ง
จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่
22:00น.            เดินทางถึงสนามบิน Sphinx International Airport เมืองกีซา ประเทศอียิปต์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
                        จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมระดับ 3 ดาว หรือระดับเทียบเท่า
 
สำหรับพีเรียดเดินทางพฤศจิกายน
05:00น.            คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินแอร์อาราเบีย AirArabia (G9) เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านในการเตรียมตัวเดินทางและผ่านขั้นตอนการเช็คอิน
08:10น.            ออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบิน G9-822
                        (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง สามารถซื้อเพิ่มเติมได้)
                        บนเครื่องไม่มีจอ แต่มี QR Code สำหรับสแกนดูหนังผ่านมือถือหรือ ipad ของท่านได้
หมายเหตุ: ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องเนื่องจากเป็นไปตามระบบของสายการบิน
ซึ่งระบบการจองที่นั่งเป็นแบบสุ่มที่นั่งว่าง หากท่านมีความประสงค์ที่จะระบุที่นั่งบนเครื่องหรือเปลี่ยนที่นั่ง
จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่
12:10น.            เดินทางถึงสนามบินนานาชาติชาร์จาห์ (เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง)
13:05น.            ออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติไคโร ประเทศอียิปต์ โดยเที่ยวบิน G9-624
                        (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง สามารถซื้อเพิ่มเติมได้)
                        บนเครื่องไม่มีจอ แต่มี QR Code สำหรับสแกนดูหนังผ่านมือถือหรือ ipad ของท่านได้
หมายเหตุ: ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นังบนเครื่องเนื่องจากเป็นไปตามระบบของสายการบิน
ซึ่งระบบการจองที่นั่งเป็นแบบสุ่มที่นั่งว่าง หากท่านมีความประสงค์ที่จะระบุที่นั่งบนเครื่องหรือเปลี่ยนที่นั่ง
จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่
15:15น.            เดินทางถึงสนามบินนานาชาติไคโร ประเทศอียิปต์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว รถโค้ชรอรับท่านที่สนามบิน นำท่านแวะชมอนุสรณ์สถานทหารนิรนาม เป็นอนุสรณ์สถานรูปทรงพีระมิดในเมือง Nasr สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1974 เพื่อเป็นเกียรติแก่ชาวอียิปต์และชาวอาหรับที่เสียชีวิตในสงครามตุลาคม ค.ศ.1973 และยังเป็นสุสานของอดีตประธานาธิบดีคนที่ 3 ของอียิปต์ Anwar Sadat ที่ถูกรอบสังหารในเดือนตุลาคม 1981

 ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
                        นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมระดับ 3 ดาว หรือระดับเทียบเท่า

ที่พัก

 เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
 
นำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ของมหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramids of Giza) ที่ตั้งของพีระมิดทั้ง 3 องค์ ซึ่งเป็นกลุ่มพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในอียิปต์และได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ที่ยังหลงเหลือและคงสภาพอยู่อย่างเกือบสมบูรณ์ ซึ่งองค์ฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ฝังพระศพของพระองค์เองและเก็บทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดที่ต้องการสำหรับโลกหน้า เพื่อรอการฟื้นคืนชีพตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ ซึ่งประกอบไปด้วยพีระมิด 3 องค์ (ไม่รวมค่าเข้าชมด้านในตัวพีระมิด)
-พีระมิดคูฟู (Khufu) หรือ พีระมิดคีออพส์ (Cheops) นิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า มหาพีระมิดแห่งกีซา เป็นพีระมิดที่มีความใหญ่โตและเก่าแก่ที่สุดในกลุ่มพีระมิดแห่งกีซา เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยฟาโรห์คูฟู (Khufu) แห่งราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งปกครองอียิปต์โบราณ เมื่อประมาณ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล หรือกว่า 4,600 ปีมาแล้ว ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 20 ปี ด้วยความสูง 146 เมตร
-พีระมิดคาเฟร (Chefren) หรือ คีเฟรน (โอรสของฟาโรห์คูฟู) เป็นพีระมิดที่ตั้งอยู่องค์กลางของพีระมิดทั้ง 3 สร้างขึ้นในปี 2465 ก่อน ค.ศ. ด้วยความสูง 136 เมตร พีระมิดนี้ก่อสร้างอยู่บนพื้นหินที่สูงกว่า ทำให้เมื่อมองด้วยตา พีระมิดคาเฟรจะมีขนาดใหญ่กว่าพีระมิดคูฟู ทั้งที่ในความเป็นจริงมีความสูงน้อยกว่าและมีขนาดฐานแคบกว่า ลักษณะสำคัญอีกอย่างหนึ่งของพีระมิดคาเฟร คือ ส่วนยอดของพีระมิดยังคงมีชั้นหินปูนขัดมัน ที่ชาวอียิปต์โบราณก่อสร้างปิดเป็นผิวชั้นนอกของพีระมิดหลงเหลืออยู่ หินปูนขัดมันที่เป็นผิวชั้นนอกนี้ บางก้อนมีน้ำหนักถึง 7 เมตริกตัน
-พีระมิดเมนคูเร (Menkaure) หรือเมนคาวเร สร้างโดยฟาโรห์เมนคูเร (โอรสของฟาโรห์คาเฟร) ด้วยความสูง 65.5 เมตร ฐานแต่ละด้านกว้างประมาณ 105 เมตร และเอียงทำมุมประมาณ 51 องศา ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็กที่สุดในหมู่พีระมิดทั้ง 3 แต่ก็ยังสูงประมาณอาคาร 18 ชั้น (เมื่อคิดความสูงที่ชั้นละ 3.5 เมตร) ทางทิศใต้ของพีระมิดเมนคูเร มีการสร้างหมู่พีระมิดราชินีทั้ง 3 (The Three Queen's Pyramids) เป็นที่ไว้พระศพของราชินี 3 องค์ในสมัยของฟาโรห์เมนคูเร
**กรณีสนใจเข้าชมด้านในตัวพีระมิดกรุณาติดต่อสอบถามไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์**
(หมายเหตุ: ด้านในตัวพีระมิดเป็นที่แคบ มีอากาศเบาบาง และต้องปีนบันไดเพื่อเข้าชมด้านใน ทั้งนี้ในแต่ละวันการเข้าชมพีระมิดจะจำกัดผู้เข้าชมไว้ไม่เกินวันละ 300 คนเท่านั้น)

จากนั้นให้ท่านถ่ายรูปกับมหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx) ผู้พิทักษ์ครึ่งสิงโตครึ่งมนุษย์ มหาสฟิงซ์นี้เป็นรูปแกะสลักจากหินก้อนเดียวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และยังนับเป็นอนุสาวรีย์แบบแกะสลักลอยตัวที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย สันนิฐานว่าใบหน้าของสฟิงซ์อาจจะเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์คาเฟร สฟิงซ์เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของกษัตริย์ หรือเป็นสัตว์ที่ชาญฉลาดและมีพลังเพื่อปกป้องพระศพและทรัพย์สมบัติภายในพีระมิดแต่เป็นที่น่าเสียดายที่ส่วนจมูกของสฟิงซ์นั้นได้ถูกทำลายเนื่องจากถูกใช้เป็นเป้าซ้อมยิงปืนของทหารในเวลานั้น พิเศษ!! ให้ท่านขี่อูฐกลางทะเลทราย ชมทิวทัศน์รอบๆ โดยมีพีระมิด ทั้ง 3 ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง  
จากนั้นนำท่านชมศูนย์การทำกระดาษปาปิรุส กระดาษชนิดแรกของโลกที่ทำจากต้นกก ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวอียิปต์ในสมัยนั้น เพื่อใช้บันทึกข้อความสรรเสริญเทพเจ้าและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในสมัยอียิปต์โบราณ พร้อมแวะชมโรงงานผลิตหัวน้ำหอม ซึ่งกล่าวกันว่าการทำน้ำหอมเป็นสูตรดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยพระนางคลีโอพัตรา และที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตหัวน้ำหอมขนาดใหญ่ให้กับแบรนด์เนมยี่ห้อดังๆ หลายยี่ห้ออีกด้วย

 กลางวัน            รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย                  เดินทางสู่เมืองเมมฟิส (Memphis) เมืองหลวงเก่าแก่แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5,000 ปี เป็นเมืองที่ได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่ามีความสำคัญในการรวมอียิปต์บนและอียิปต์ล่างให้เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยกษัตริย์เมนา ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1 นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งเมืองเมมฟิส ซึ่งจัดแสดงรูปแกะสลักขนาดใหญ่ของฟาโรห์ Rameses II ที่ไม่สมบูรณ์เต็มองค์ มีความยาวจากมงกุฎถึงเข่า 11 เมตร นอนอยู่ในอาคาร (สันนิษฐานว่าถ้ารูปปั้นสมบูรณ์เต็มองค์จะมีความสูงราว 13-14 เมตร) แกะมาจากหินปูนและสลักในท่ายืน แต่ปัจจุบันล้มลงมานอนกองกับพื้น ซึ่งมีพระพักตร์อันงดงาม จากนั้นเดินทางสู่เมืองซัคคาร่า (Saqqara) ทางตอนใต้ของกรุงไคโร นำท่านชมพีระมิดขั้นบันได (Step Pyramid of Saqqara) พีระมิดแห่งแรกของโลก ใช้เป็นสถานที่ฝังพระศพของกษัตริย์ซอเซอร์ ในราชวงศ์ที่ 3 ราว 2600 ปีก่อนศริสตกาล เพื่อใช้เป็นทางเสด็จสู่สรวงสวรรค์เดินทางไปกับเทพเจ้า และพีระมิดขั้นบันไดยังเป็นต้นแบบของพีระมิดในยุคต่อๆ มาอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงไคโร

 ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
                        นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมระดับ 3 ดาว หรือระดับเทียบเท่า

ที่พัก

 เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่เมืองอเล็กซานเดรีย Alexandria (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองท่าสำคัญของอียิปต์ตั้งแต่ในยุคโบราณ และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศในปัจจุบัน โดยตั้งอยู่ทางเหนือสุดของประเทศติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งถือเป็นจุดที่แม่น้ำไนล์สิ้นสุด โดยอเล็กซานเดรียนั้นมีชื่อในประวัติศาสตร์ในช่วงประมาณ 332 ปีก่อนศริสตกาล ซึ่งตรงกับสมัยมหาราชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของกรีก นั่นคือกษัตริย์มาซิโดเนีย อเล็กซานเดอร์ที่ 3 และยังเคยเป็นสถานที่ตั้งของ Pharos ประภาคารที่ยิ่งใหญ่แห่งอเล็กซานเดรีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ และยังเป็นสถานที่สำคัญในตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของพระนางคลีโอพัตรา และนายทหาร มาร์ค แอนโทนี่ อีกด้วย นำท่านเข้าชมหลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย Catacombs Of Alexandria มีชื่อเรียกว่า คาตาโกมบ์ เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของสุสานของกษัตริย์อียิปต์ นอกเหนือจากรูปแบบพีระมิดและแบบวิหารที่เจาะเข้าไปในเขา โดยภายในนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้น เป็นชั้นลำเลียงโลงและศพ ชั้นฝังศพ และชั้นสำหรับเป็นสถานที่รวมญาติของผู้เสียชีวิต จากนั้นนำท่านชมเสาปอมเปย์ (Pompey's Pillar) เสาต้นนี้ตั้งตามชื่อเพื่อนสนิทของจูเลียส ซีซาร์ ผู้นำของสาธารณรัฐโรมัน และเป็น 1 ใน 3 กงสุลใหญ่ของสาธารณรัฐ ที่ในตอนหลังทั้งสองได้กลายเป็นศัตรูกัน และปอมเปย์ได้หลบหนีมาที่นี่ก่อนถูกชาวอียิปต์ฆ่าตาย โดยมีการเล่าขานกันว่าจูเลียส ซีซาร์ได้ทำพิธีเผาศีรษะของปอมเปย์ที่เสาแห่งนี้ ตัวเสาสร้างด้วยหินแกรนิตแดงเพียงก้อนเดียวจากเมืองอัสวานทางตอนใต้ของอียิปต์สูงประมาณ 20.46 เมตร รวมฐานแล้วสูงประมาณ 27 เมตร หัวเสาโรมันแบบคอรินเทียสนั้นสร้างต่อเติมเข้ามาในปี 297 เพื่อรำลึกถึงชัยชนะที่จักรพรรดิไดโอคลีเชียนมีต่อสงครามจลาจลในอเล็กซานเดรีย ปัจจุบันนี้เหลือเพียงแค่เสาแบบกรีกตั้งอยู่อย่างโดดเด่น และสฟิงซ์อีกสองตัวที่ทำหน้าที่เฝ้าสถานที่แห่งนี้

 กลางวัน            รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย                  นำท่านเข้าชมห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย (Library of Alexandria) ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นแหล่งวิทยาการแห่งแรกของโลก เนื่องจากเป็นที่เก็บตำราเรียน วรรณกรรม จดหมายเหตุ และบันทึกต่างๆ บนกระดาษปาปิรุส เมื่อกว่า 2,000 ปีมาแล้ว นอกจากนั้นนักโบราณคดียังค้นพบว่ามีห้องที่มีเวทีขนาดใหญ่ถึง 13 ห้อง สามารถจุผู้คนได้มากถึง 5,000 คน จึงสันนิษฐานว่าจะเป็นแหล่งการเรียนการสอนที่มีแบบแผนแห่งแรกๆ ของโลก ว่ากันว่าในสมัยของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชนั้น อเล็กซานเดรียเป็นศูนย์รวมของปัญญาชนชาวกรีกจากการที่มีตำราต่างๆ มากมายในการค้นคว้าหาความรู้ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่หอสมุดแห่งนี้ถูกเผาทำลายในยุคของพระนางคลีโอพัตรา เอกสารส่วนมากถูกทำลายไปจนหมดสิ้น สำหรับอาคารในปัจจุบันนั้นได้รับการสร้างขึ้นใหม่ด้วยแรงสนับสนุนจากหลายส่วนจนสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้งในปี 2002 โดยมีหนังสือกว่า 8 ล้านเล่ม บนพื้นที่กว่า 70,000 ตารางเมตร

 
จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับป้อมปราการเคตเบย์ (Quite Bay's Citadel) สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 15 โดยสุลต่านเคตเบย์แห่งอาณาจักรออตโตมัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการเผยแพร่ศาสนาอิสลามในดินแดนแห่งลุ่มแม่น้ำไนล์ บนพื้นที่เดิมของประภาคารฟาโรสแห่งอเล็กซานเดรีย แต่ในวันที่ 11 ก.ค.1882 นั้น ป้อมปราการหลังนี้ถูกทิ้งระเบิดจากกองทัพของสหราชอาณาจักรและถูกทิ้งไว้จนรัฐบาลมีคำสั่งให้บูรณะในปี 1952 และเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ทางทะเลและนาวิกโยธิน จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงไคโร
 

ที่พัก

 เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอียิปต์ Egyptian Museum of Antiques หรือพิพิธภัณฑ์ไคโร เป็นพิพิธภัณฑ์สำคัญของประเทศอียิปต์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวบรวมของล้ำค่ามากมายและโบราณวัตถุอียิปต์โบราณ โดยรวบรวมไว้หลายยุคสมัย มีจำนวนกว่า 120,000 ชิ้น พร้อมชมโลงศพทองคำแท้หนัก 110 ก.ก. หน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมน หนัก 11 ก.ก. และสมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์ เช่น เตียงบรรทม, รถศึก และสมบัติสำคัญอีกชิ้นที่จัดแสดง คือ บัลลังก์ทองที่มีชื่อเสียงของตุตันคามุน ซึ่งภาพบนพนักพิงเป็นภาพสลักที่มเหสีอเคเซนามุนกำลังเจิมน้ำหอมให้ฟาโรห์ตุตันคามุน 
 
 กลางวัน            รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย                  เดินทางสู่ย่านเมืองเก่าไคโร ที่เต็มไปด้วยโบราณสถานสำคัญๆ นำท่านชมโบสถ์แขวน (Hanging Church)
โบสถ์แห่งนี้อุทิศให้กับพระแม่มารี เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในอียิปต์ นิยมเรียกว่าโบสถ์ "แขวน" หรือ "ระงับ" (Al-Muallaqa ในภาษาอาหรับ) เพราะสร้างโบสถ์อยู่บนกำแพงทางใต้ของป้อมปราการโรมันเก่าแห่งบาบิโลน และมีทางเดินกลางโบสถ์อยู่เหนือระดับพื้นดินเดิม โดยโครงสร้างเดิมอาจสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 4 ตัวสถาปัตยกรรมออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่นด้วยตัวอาคารมีหอระฆังคู่แฝดตั้งตระหง่าน ด้านบนประดับไม้กางเขน ประตูหน้าต่างไม้แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงสวยงาม และชมโบสถ์เซนต์เซอร์เจียส (Saints Sergius and Bacchus Church) หรือที่รู้จักในชื่อ Abu Serga เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งในอียิปต์ และถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์และศาสนาที่สำคัญ กล่าวกันว่าตำแหน่งใต้ดินของโบสถ์แห่งนี้เคยที่เป็นสถานที่ ๆ โยเซฟได้พาพระกุมาร (พระเยซู) และภรรยา (พระแม่มารีย์) มาพำนักเป็นเวลา 4 ปี ในช่วงที่ต้องลี้ภัยจากกษัตริย์เฮโรดแห่งยูดาห์ที่สั่งฆ่าทารกที่เกิดใหม่ทุกคน ตัวอาคารโบสถ์ดั่งเดิมสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 แต่ต่อมาราวปี ค.ศ. 750 ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น และได้มีการสร้างโบสถ์หลังใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 8 สร้างคร่อมทับบนตำแหน่งโบสถ์หลังเดิมที่จมลึกอยู่ใต้ผืนดินลงไปถึง 10 เมตร ตัวอาคารโบสถ์ดั่งเดิมจึงแปรสภาพเป็นห้องใต้ดิน                       
  
 
จากนั้นนำท่านสู่ถนนมุยส์ Muizz Street หนึ่งในถนนสายเก่าแก่ของไคโรซึ่งองค์การสหประชาชาติได้ยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าของโลกอิสลาม บริเวณทางทิศเหนือของถนนนั้นจะมีประตู Bab Zuweila 1 ใน 3 ประตูที่สร้างขึ้นในสมัยออตโตมัน ด้วยความงามโดยรอบของถนนแห่งนี้นั้น ทำให้มีคนกล่าวขนานนามว่าเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง และอิสระให้ท่านเลือกซื้อของฝากนานาชนิด ณ แหล่งของฝากที่ใหญ่ที่สุดในไคโรที่ตลาดข่าน เอล คารีรี่ (Khan el-Khalili) ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องทองแดง ทองเหลือง เครื่องเทศ ขวดน้ำหอม ของที่ระลึก ของใช้ ของกิน ร้านกาแฟ และอีกมากมาย ซึ่งตลาดแห่งนี้นับเป็นตลาดที่มีความเก่าแก่มากโดยได้รับการบูรณะในช่วงศตวรรษที่ 16 โดยอาคารโดยรอบนั้นสร้างและบูรณะในสมัยสุลต่าน Al-Ghuri
(เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย)
นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมระดับ 3 ดาว หรือระดับเทียบเท่า

ที่พัก

 เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมป้อมซาลาดีนหรือป้อมซิทาเดล (Citadel) ป้อมปราการสมัยอิสลามรุ่งเรืองในอียิปต์ ป้อมนี้ถูก  สร้างขึ้นในปี 1176 โดยกษัตริย์ซาลามดิน โดยใช้หินจากปิรามิดแห่งกีซ่ามาสร้างกำแพงเพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันประเทศจากสงครามครูเสด ป้อมซิทาเดลเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะ เพราะภายนอกป้อมสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงไคโร และเข้าชมสุเหร่าโมฮัมหมัด อาลี (Mohammad Ali Mosque) ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีก ใช้เวลาในการสร้างนานกว่า 18 ปี นับเป็นสุเหร่าที่ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงไคโร ตัวอาคารสร้างจากหินอลาบาสเตอร์ (Alabaster) ผู้สร้างต้องการให้มีรูปแบบเหมือน Blue Mosque ที่อิสตันบูล ภายในสุเหร่าตกแต่งด้วยโคมไฟระย้างดงามตามแบบศิลปะอิสลามอย่างสวยงาม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ห้างสรรพสินค้า CITY STARS MALL อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ หรือเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
(เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย)
จนได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติกรุงไคโร
16.25 น.            ออกเดินทางจากสนามบินกรุงไคโร โดยสายการบิน AirArabia เที่ยวบินที่ G9-598
**เดินทางพฤศจิกายน เวลาบินเปลี่ยนเป็น 16.05 น.(ไฟล์ท G9-625) ถึงสนามบินชาร์จาห์ เวลา 21.15 น.**
                        (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง สามารถซื้อเพิ่มเติมได้)
                        บนเครื่องไม่มีจอ แต่มี QR Code สำหรับสแกนดูหนังผ่านมือถือหรือ ipad ของท่านได้
หมายเหตุ: ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องเนื่องจากเป็นไปตามระบบของสายการบิน
ซึ่งระบบการจองที่นั่งเป็นแบบสุ่มที่นั่งว่าง หากท่านมีความประสงค์ที่จะระบุที่นั่งบนเครื่องหรือเปลี่ยนที่นั่ง จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกรุณาแจ้งทีมงาน
20:50น.            เดินทางถึงสนามบินนานาชาติชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง)
22.25 น.            ออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติชาร์จาห์ โดยสายการบิน AirArabia เที่ยวบินที่ G9-821
**เดินทางพฤศจิกายน เวลาบินเปลี่ยนเป็น 22.20 น.ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 07.50 น.**
                        (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง สามารถซื้อเพิ่มเติมได้)
                        บนเครื่องไม่มีจอ แต่มี QR Code สำหรับสแกนดูหนังผ่านมือถือหรือ ipad ของท่านได้
หมายเหตุ: ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องเนื่องจากเป็นไปตามระบบของสายการบิน
ซึ่งระบบการจองที่นั่งเป็นแบบสุ่มที่นั่งว่าง หากท่านมีความประสงค์ที่จะระบุที่นั่งบนเครื่องหรือเปลี่ยนที่นั่ง จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกรุณาแจ้งทีมงาน

07.50 น.            เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  โดยสวัสดิภาพ..