22.30 สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 โดยมี เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวก

ที่พัก

  00.20 เหิรฟ้าสู่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ Thai Airways เที่ยวบินที่ TG954

  06.50 เดินทางถึงสรามบินกรุงออสโล, ประเทศนอร์เวย์ นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง / นำท่านโดยสารรถโค้ชปรับอากาศ เข้าสู่ตัวเมืองออสโล นำท่านชม “กรุงออสโล” Oslo เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ในอดีต ครั้งสมัยที่นอร์เวย์อยู่ในอารักขาของอาณาจักรเดนมาร์คนั้น นอร์เวย์เคยย้ายเมืองหลวงถึงสองครั้งสองหนจากกรุงทรอนไฮม์เป็นกรุงเบอร์เก้นจนกระทั่งได้ย้ายมาเป็นกรุงออสโลในปัจจุบันที่โอ่อ่าในเวลานี้ อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ ย้อนหลังถึง 900 ปี  ในครั้งนั้นออสโลเป็นเมืองอาณานิคมใหญ่ของจักรวรรดิ์ไวกิ้งโบราณ ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชของพระเจ้าฮาโรลด์แฟร์แฮร์ ผ่านชมโบสถ์โดมคาทีดราลตึกรัฐสภา อุทยานแห่งชาติ นำท่านชมภายใน “อุทยานฟรอกเนอร์” ท่านจะทึ่งผลงานของปฏิมากรเอกชาวนอร์เวย์ ชื่อกุสตาฟ วิกเกแลนด์  ที่ใช้เวลาถึง 40 ปี ในการแกะสลักหินแกรนิต และทองแดงให้ยุวชนได้เห็นวัฏจักรในหนึ่งชั่วชีวิตของมนุษย์ ตรงใจกลางของอุทยานเป็นที่ตั้งของรูปแกะสลักชื่อ โมโนลิท (สูง 17 เมตร) แกะสลักจากหินแกรนิตชนิดแข็ง และรูปปั้น หล่อสำริด เยอะแยะมากมายรวมทั้งสวนดอกไม้นานาพันธุ์ให้ท่านเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามอย่าเต็มที่ / ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน

  เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน(คืนเงินทางล่ะ 20 ยูโร)

  13.25 ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองฮาร์สตัด โดยเที่ยวบินที่.....

  15.05 หลังอาหารเดินทางสู่ จากนั้นเดินทางสู่ หมู่เกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของนอร์เวย์ ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายหลายเกาะ เชื่อมต่อกันด้วยถนนสาย E10 ภูมิประเทศเป็น ภูเขา หินแกรนิตสูงตระหง่านสลับเรียงรายริมทะเล มีผืนน้ำสีฟ้าคราม แซมด้วยบ้านชาวประมงสีแดงโดดเด่นอยู่กลางทะเลนอร์วีเจียนทำให้เกิดทัศนียภาพงดงามราวกับเมืองในเทพนิยาย 

  ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  พักที่: THON HOTEL LOFOTEN // SVOLVAER หรือระดับใกล้เคียง  ในวันที่อากาศดีท่านอาจมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือ(Northern Light) จากเมืองสโวลแวร์ได้เนื่องจากเมืองนี้อยู่ในบริเวณเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น *** 

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม   
หลังอาหารเดินทางสู่ หมู่บ้าน นัสฟยอร์ด (NUSFJORD) (91 กม.) หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่สุดทางชนบท สาย FV807 ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะ Flakstadøya ตามแนว Vestfjorden ที่ได้ชื่อว่าเป็น หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งบนเกาะโลโฟเตน และมีทัศนียภาพที่สวยงามไม่แพ้หมู่บ้านอื่นๆ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านโอ (Å) (49 กม.) ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของถนนหมายเลข 10 ของนอร์เวย์และยังเป็นจุดสิ้นสุดของถนนแห่งเกาะโลโฟเตน เดินเล่นชมหมู่บ้านโอ (Å) ที่มีกระท่อมเก่าแก่ อันเป็นประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นเหลืออยู่ และตั้งเรียงรายกันเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีตของชุมชนแห่งนี้ จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้านเรเนย์ Reinehalsen (9.3 กม.) 

  เที่ยง บริการกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารนำท่านสู่จุดถ่ายรูปที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศนอร์เวย์ โดยชาวประมงที่เรเนย์ จะออกหาปลาและนำปลามาผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยการตากแห้งเพื่อส่งขายและเก็บไว้ทานในฤดูหนาว ปลาส่วนใหญ่ที่จับได้ในเขตนี้คือ ปลาค็อด ซึ่งชาวประมงนำปลามาตากแห้งบนราวหรือชั้นไม้ทั่วหมู่บ้าน ซึ่งปลาแห้งถือเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่เก่าแก่ที่สุดของนอร์เวย์ จากนั้นสู่หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) (5 กม.) หมู่บ้านชาวประมงเล็กมีบ้านเรือนอยู่ไม่กี่หลัง แต่เป็นหมู่บ้านที่มีฉากธรรมชาติงดงามมาก มีทิวเขาตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง ด้านหน้ามีเรือประมงจอดทอดสมออยู่มากมาย เก็บภาพบรรยากาศที่สวยงามตามอัธยาศัย นำท่านแวะชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง(Viking Museum) ที่ตั้งอยู่บนฐานบ้านเรือนเก่าของชุมชนชาวไวกิ้งโบราณ ท่านจะได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความเป็นมาของชาวไวกิ้งมากขึ้น ภายในตัวอาคารจะมีของใช้และอุปกรณ์ในการดำรงชีวิตของชาวไวกิ้งที่ขุดค้นพบเจอในบริเวณนี้และมีเครื่องแต่งตัวให้ท่านได้ทดลองสวมใส่และเก็บภาพเป็นที่ระลึก สมควรแก่สมควรแก่เวลาเดินทางกลับสู่เมืองสโววาร์ (68 กม.)   

  ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 
  พักที่: THON HOTEL LOFOTEN // SVOLVAER หรือระดับใกล้เคียง  ในวันที่อากาศดีท่านอาจมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือ(Northern Light) จากเมืองสโวลแวร์ได้เนื่องจากเมืองนี้อยู่ในบริเวณเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น *** 

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม   
นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านเฮนนิ่งสวาร์ (Henningsvær) ตัวเมืองตั้งอยู่ปลายแหลมด้านตะวันออกของเกาะโลโฟเทน เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีความน่ารักและมีประวัติการตั้งถิ่นฐานมายาวนาน นำท่านชมสนามฟุตบอลกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลโฟเทน ที่ใช้ในการโปรโมทการท่องเที่ยวโลโฟเทน (ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมของชาวนอร์เวย์แม้แต่ในเกาะแห่งนี้ก็ยังมีสนามฟุตบอล นำท่านเดินชมตัวเมืองที่น่ารักและเป็นที่จอดพักเรือประมงรวมถึงเรือยอร์ช / นำท่านชมเมืองสโวลแวร์ (SVOLVAER) (20 กม.) เมืองสวยน่ารักที่ขนาดพื้นที่เพียงแค่ 2.3 ตารางกิโลเมตร ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะเอาสต์วอเกออี “Austvågøya” ที่เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะโลโฟเทน เกาะที่มีชื่อเสียงเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามของประเทศนอร์เวย์  ถือเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ 

  เที่ยง บริการกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชมเมืองที่สวยงามเดินเล็นชมจัตุรัสกลางเมือง (Svolvaer) เก็บภาพความสวยงามของเมืองอย่างเต็มที่ จากบริเวณท่าเรือของสโวลแวร์ ท่านจะเห็นบ้านชาวประมงที่ดัดแปลงมาเป็นห้องพักรับนักท่องเที่ยว สีแดงสดสวยงามตัดกับสีท้องฟ้าและน้ำทะเลสีคราม ในบริเวณตัวเมืองจะเต็มไปด้วยร้านค้า  ร้านกาแฟ ร้านขายของสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกมากมาย มีเวลาให้ท่านเดินเล่นหรือผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่สวยงามของตัวเมือง  พิเศษ...นำท่านเข้าชม Magic Ice Bar Svolvær พบกับการผจญภัยที่น่าอัศจรรย์กับของเขตอาร์กติก โดยสิ่งของภายในจัดทำขึ้นจากน้ำแข็ง และการติดตั้งที่มีแสงไฟ LED ที่มีสีสันผสมผสานดนตรีสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์เฉพาะ เมจิกไอซ์เป็นดินแดนมหัศจรรย์ในฤดูหนาวที่ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันไม่ธรรมดาของดินแดนแห่งน้ำแข็งที่สมกับเป็น 'Winter Wonderland' อย่างแท้จริง ***หมายเหตุ...Magic Ice จะมีชุดคลุมกันหนาวและกันเปียกไว้บริการให้สำหรับทุกท่าน***

  19:15 เรือสำราญ HAVILA CRUISE / HURTIGRUTEN CRUISE ออกเดินทางสู่เมืองทรอมโซ

  ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ในเรือสำราญ
  พักที่: HAVILA CRUISE / HURTIGRUTEN CRUISE (ห้องพักวิวทะเล SEAVIEW)  

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า ณ ภัตตคาร
ภายในเรือสำราญ หลังอาหารมีเวลาให้ท่านเดินเล่นสำรวจเรือสำราญ มีห้องซาวน่า, ห้องออกกำลังกาย รวมถึงสระน้ำวนจากุชชี่ ไว้บริการทุกท่าน หรือท่านจะเลือกนั่งชมวิวที่สวยงามของนอร์เวย์ ฟยอร์ด  ระหว่างเส้นทางที่สวยงามเกินคำบรรยาย ในเรือมีห้องคาเฟ่ต์ที่สามารถนั่งชมวิวได้หลายจุด

  เที่ยง บริการกลางวัน ณ ภัตตาคาร ในเรือสำราญ 

  14.15 เรือสำราญ เข้าเทียบท่าเรือทรอมโซ่ จากนั้นเดินทางข้ามสะพานทรอมโซซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ของเมืองสู่สถานีกระเช้า Fjellheisen โดยสายกระเช้าขึ้นสู่จุดชมวิวยอดเขาสโตร์สไตยเนน (Mt.Storsteinen) เพื่อชมทิวทัศน์ตัวเมืองทรอมโซ, ฟยอร์ด, แม่น้ำและภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะในแบบพาโนรามา ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 420 เมตร ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางฟยอร์ด มีเกาะใหญ่ๆ ล้อมรอบ มีเวลาให้ท่านจิบกาแฟหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรนำท่านลงสู่สถานีด้านล่าง นำท่านผ่านชมความงดงามละยิ่งใหญ่ของ โบสถ์อาร์ติค (Arctic Church) โบสถ์ที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ อีกทั้งยังมีโครงสร้างที่โดดเด่น ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการสร้างมาจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์ อิสระทุกท่านเดินเล่นชมเมืองทรอมโซ่ เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลทางเหนือของนอร์เวย์ มีหิมะปก คลุมภูเขาลูกใหญ่ที่โอบล้อมเมืองเอาไว้ราวกับป้อมปราการ มีสะพานทอดยาวระหว่างเกาะไปยังแผ่นดินใหญ่ ผ69สมผสานกับความคลาสสิคของสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่ชาวทรอมโซ่ยังอนุรักษ์ไว้ ทั้งโบสถ์ไม้ โบสถ์ไม้เก่าแก่ชื่อ Tromso Cathedral โบสถ์ไม้ที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเก่าแก่ที่สุด และยังเป็นหนึ่งในโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ โดยมหาวิหารถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1861 ในแบบสไตล์กอธิคที่มีความงดงามมาก

  ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 
  ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, SCANDIC HOTEL TROMSO หรือที่พักระดับใกล้เคียง จากนั้นนำท่านร่วมกิจกรรมสุดพิเศษ...ล่องเรือชมแสงเหนือ (Aurora Cruising) เรือจะนำท่านออกจากฝั่งไปยังบริเวณที่สามารถมองเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจน(ที่ห่างไกลจากแสงไฟของตัวเมือง) ภายในเรือจะมีห้องน้ำเครื่องดื่มและอาหารว่างไว้คอยบริการทุกท่าน เรือจะออกจะท่าเรือสโวล์แวร์ไปยังจุดที่อับแสง ที่ห่างจากแสงไฟของตัวเมือง เนืองจากสภาพภูมิประเทศของโลโฟเทน มีภูเขาเยอะจึงทำให้ภาพออโรร่าสวยงามยิ่งขึ้น *** แสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น(กันยายน-ต้นเมษายน) ซึ่งแสงออโรร่า (Aurora borealis) จะปรากฎเป็นแสงสีเขียวที่พาดผานท้องฟ้ายามค่ำคืน *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้น  ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, SCANDIC HOTEL TROMSO หรือที่

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม 

  09.30 นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินทรอมโซ

  12.15 ออกเดินทางสู่สนามบินลองเยียร์บีน เกาะสวาบาร์ด (Svalbard)

  13.45 เดินทางถึงสนามบินลองเยียร์บีน (Longyearbyen) เกาะสวาบาร์ด หมู่เกาะที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างนอร์เวย์และขั้วโลกเหนือในมหาสมุทรอาร์กติก ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของโลก มีพื้นที่รกร้างว่างเปล่าในแถบอาร์กติกอันบริสุทธิ์และอุดมสมบูรณ์ไม่มีที่สิ้นสุด สวาลบาร์ดประกอบด้วยเกาะ เกาะเล็กเกาะน้อย เกาะที่ใหญ่ที่สุดคือ Spitsbergen ในขณะที่ภูเขาที่สูงที่สุดคือ Newtontoppen (1,713 เมตรเหนือ ระดับน้ำทะเล) มีประชากร 2,400 คน จากประมาณ 53 ประเทศ นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองลองเยียร์บีน มีเวลาให้ทุกท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี อาทิ เสื้อถักแบบแอนด์เมด ลวดลายแบบชาวไวกิ้ง, เสื้อยืดที่ระลึก, ผ้าพันคอจากขนแกะ(เมืองลองเยียบีน เป็นเขตปลอดภาษีของประเทศนอร์เวย์) นำท่านเข้าสู่ที่พัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย 

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
พร้อมนำท่านเข้าร่วมกิจกรรม (Wilderness Evening) ห่างจากเมืองไม่ไกลนัก Advent Valley โอบล้อมด้วยภูเขาสูงเป็นที่ตั้งของ Camp Barentz ภูมิใจนำเสนอเรื่องราวของสฟาลบาร์ Willem Barentz ผู้ค้นพบสฟาลบาร์ ที่แคมป์บาเรนท์ เรามักจะเห็นกวางเรนเดียร์สฟาลบาร์ หรือ สุนัขจิ้งจอก ภายในกระท่อมไม้อบอุ่นสบาย ต้อนรับด้วยเครื่องดื่มชั้นดี และกวางเรนเดียร์โฮมเมดแสนอร่อย พร้อมด้วยกาแฟ แคมป์ไฟและของหวาน ต้อนรับท่านสู่มื้ออาหารสวาลบาร์ที่แท้จริง และให้ท่านได้เรียนรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับหมีขั้วโลกและสัตว์พื้นเมืองชนิดต่างๆ 

  ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, FUKEN LODGE HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง บริเวณเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น *** 

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม 
นำท่านขับรถสโนว์ โมบิล Snow Mobile Safari (คันล่ะสองท่าน) เข้าไปในภูมิประเทศสวาลบาร์ดในฤดูร้อน ที่ซึ่งหุบเขา ลึกและภูเขาสูงเป็นที่อยู่ของกวางเรนเดียร์สวาลบาร์ดและสุนัขจิ้งจอกภูเขา เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสที่จะสัมผัสประสบการณ์นี้ในสถานที่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก ผ่านภูมิประเทศแบบสฟาลบาร์สุดคลาสสิกในแอดเวนดาเลน  ซึ่งเป็นหุบเขาที่มีรูปร่างเป็นธารน้ำแข็ง และล้อมรอบด้วยภูเขาและอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจผ่านทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติ และหากคุณโชคดี คุณอาจได้เห็นชีวิตสัตว์ สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก กวางเรนเดียร์ และนกที่อุดมสมบูรณ์ 

  เที่ยง บริการกลางวัน ณ ภัตตาคาร
รถสโนว์แคท(Snowcat) รอรับคณะแล้วเดินทางสู่จุดเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง(Ice Caves) ตั้งอยู่บริเวณใต้ธารน้ำแข็ง ชมวิวทิวทัศน์ที่แปลกตาระหว่างทางของทุ่งลาวาเดินทางถึงจุดจอดรถ ไกด์ท้องถิ่นจะเตรียมรองเท้าตะข้อและหมวกกันน็อค ให้กับทุกท่าน เพื่อการเดินท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย นำท่านเดินสู่บริเวณปาก'ถ้ำธารน้ำแข็ง' เข้าชมถ้ำน้ำแข็งที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติที่เข้าถึงได้ตลอดทั้งปีและอยู่ใกล้เมืองลองเยียบีนที่สุด วิวภายในถ้ำน้ำแข็งนั้นงดงามด้วยการผสมผสานของสีของน้ำแข็ง  และมีโอกาสได้เห็นน้ำแข็งสีดำที่เกิดจากเถ้าถ่านสีดำจากการเคลื่อนตัวของธารน้ำแข็ง นำทางโดยไกด์ท้องถิ่นผู้ชำนาญเส้นทางเก็บภาพความงดงามอย่างจุใจ 

  ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, FUKEN LODGE HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง บริเวณเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น *** 

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า
ที่ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารนำท่านสู่ฟาร์มสุนัขฮัสกี้ นำท่านได้บังคับและโดยสารสุนัขลากเลื่อน สำรวจภูมิประเทศทุ่งทุนดราที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันงดงามในแอดเวนดาเลน (Adventdalen) มีภูเขาหิมะสวยงามล้อมรอบ โดยเลื่อนที่สั่งทำพิเศษที่ลากโดยเจ้าสี่ขาในภูมิประเทศอาร์กติกมีทั้งความสงบและสวยงาม ท่านอาจมีโอกาสได้เห็นชีวิตกวางเรนเดียร์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ เลื่อนจะถูกจำกัดให้เดินทางบนเส้นทางดดยมีไกด์นำทาง เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย ฮัสกี้จะลากเลื่อนด้วยความเร็วปานกลางจึงมีความปลอดภัย 

  เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังอาหารนำท่านก้าวเข้าสู่ประวัติศาสตร์ของลองเยียร์เบียนและอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน ‘Gruve 3 AS’ ที่กว้างขวาง “ถ่านหิน” หรือ “ทองคำดำ” https://en.visitsvalbard.com/things-to-do/coal-mine-3 ซึ่งเป็นถ่านหินในเทือกเขาสฟาลบาร์ดเป็นพื้นฐานในการตั้งถิ่นฐานในเหมืองในสฟาลบาร์ด และทำให้ผู้คนกลายเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรของสฟาลบาร์ดในประวัติศาสตร์เมื่อไม่นานมานี้ ผจญภัยไปในภูเขา สัมผัสบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครในขณะที่เดินผ่านอุโมงค์เหมือง และสัมผัสประวัติศาสตร์อุตสาหกรรม ของสวาบาร์ดและชีวิตของคนงานเหมืองและสำรวจอุปกรณ์และเครื่องจักรตั้งแต่สมัยเฟื่องฟู อุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินได้วางรากฐานสำหรับการตั้งถิ่นฐาน และในที่สุดทำให้ลองเยียร์เบียนเติบโตขึ้นจนกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ นำท่านชม พิพิธภัณฑ์สฟาลบาร์ด(Svalbard Museum) ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่เหนือสุดของโลกภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของหมู่เกาะสวาลบาร์ด วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและสัตว์ต่างๆที่อาศัยอยู่ในเขตขั้วโลกเหนือ พร้อมทั้งแบบจำลองของสัตว์ชนิดต่างๆ รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะสวาลบาร์ดและเขตขั้วโลกเหนือ   

  ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, FUKEN LODGE HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง บริเวณเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น *** 

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม 
จากนั้นนำท่านชมธรรมชาติของหมู่เกาะสวาลบาร์ด ผ่านชมธนาคารเมล็ดพันธุ์พืชโลกสวาลบาร์ด (Svalbard Global Seed Vault) ธนาคารแห่งนี้ ตั้งขึ้นเพื่อเก็บรักษาตัวอย่างเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้รอดพ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภาวะโลกในกรณีเกิดเหตุภัยธรรมชาติ หรือสงคราม เพื่อให้ประชากรในอนาคตยังคงมีพืชพันธุ์ธัญญาหารต่อไป โดยที่ธนาคารฯ  ตั้งอยู่ในใต้ดินของภูเขา (permafrost) ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณลบ 3-4 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยในการรักษาเมล็ดพันธุ์ไม่ให้เสียเร็วในกรณีสภาพภูมิอากาศของสวาลบาร์ดเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้นประเทศไทยก็ได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าว 81 สายพันธุ์ ไปเก็บรักษาไว้ที่ธนาคารเมล็ดพันธุ์แห่งนี้จากนั้นนำท่านชมเมืองลองเยียร์บีน มีจากผับ บาร์ มีโรงงานผลิตเบียร์และ ช็อคโกแลต รวมถึงเรือนกระจกที่เพาะปลูกสมุนไพรและผักสด มีเวลาให้ท่านชมศูนย์กลางของตัวเมืองที่มีร้านค้าขายของที่ระลึกรวมถึงเสื้อผ้าแบบท้องถิ่น เก็บภาพที่ระลึกตามอัธยาศัย

  เที่ยง บริการกลางวัน ณ ภัตตาคารนำท่านออกเดินางสู่สนามบิน

  14.50 ออกเดินทางสู่สนามบินออสโล ..... เดินทางถึงสนามบินออสโล นำเข้าสู่ตัวเมือง

  ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
  พักที่: RADISSON BLU PARK HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง

ที่พัก

  เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารนำท่านชม “อุทยานฟรอกเนอร์” ลานปฎิมากรรมกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากผลงานของ “กุสตาฟ วิคเกอร์แลนด์” ปฏิมากรชื่อดัง ซึ่งที่นี่มีปฎิมากรรมมากกว่า 200 ชิ้น โดยผลงานชิ้นเอกเป็นเสากลางอุทยานซึ่งมีควมสูงถึง 17 เมตร ชื่อ Monolitten รอบเสาแกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ ลักษณะของเสาโมโนลิท เป็นรูปคนจำนวนมากมายปีนป่ายกันอยู่บนเสาใช้เวลาสร้างรวม 22 ปี  .......... เดินทางสู่สนามบินออสโล

  14.45 ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย  เที่ยวบินที่ TG 921

ที่พัก

  05.50 เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ...โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

ที่พัก