08.00 น. นัดพบคณะที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ผู้โดยสารขาออก สังเกตป้าย “ONE FINE DAY” เจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยอำนวยความสะดวกในเรื่องเอกสารและสัมภาระของท่านก่อนขึ้นเครื่อง
11.00 น. ออกเดินทางจากสู่ พุทธคยา โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 327 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที
12.40 น. เดินทางถึง สนามบินพุทธคยา หลังจากขั้นตอนสนามบินและศุลกากรแล้ว นำท่านสู่ สังเวชนียสถานแห่งแรก กราบนมัสการพุทธสถานที่สำคัญบริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์และองค์พระมหาเจดีย์พุทธคยา อันเป็นสถานที่ตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
องค์เจดีย์สี่เหลี่ยมที่มีความสูงถึง 51 เมตร ฐานวัดโดยรอบได้ 121.29 เมตร ล้อมรอบด้วยโบราณวัตถุ โบราณสถานสำคัญ นมัสการ พระแท่นวัชรอาสน์ ที่สร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช พระพุทธเมตตาภายในองค์พระเจดีย์พุทธคยา อนิมิสเจดีย์ รัตนจงกรม สระมุจลินทร์ พร้อมฟังการบรรยายโดยพระวิทยากรอธิบายถึงความสำคัญของสถานที่ต่างๆ และสวดมนต์ ภาวนา แล้วนำชมวัดนานาชาติ เช่น วัดไทย วัดญี่ปุ่น วัดภูฏาน ฯลฯ (จำนวนวัดขึ้นกับเวลา) นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก: Hotel Anand International Bodhgaya หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
ที่พัก Hotel Anand International Bodhgaya หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
06.00 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
เช้า นำท่านเดินทางไปนำท่านเดินทางสู่ เมืองไวสาลี เมืองหลวงของอาณาจักรวัชชี หนึ่งใน 16 แคว้นของชมพูทวีป เรียกกันหลายชื่อว่า ไวสาลี ไพสาลี หรือ เวสาลี ก็ได้ ในสมัยพุทธกาลเคยเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญยิ่งอีกแห่งหนึ่ง กุฏาคารศาลาป่า มหาวัน สถานที่ที่พระพุทธองค์ปลงพระชนมายุสังขาร เป็นสถานที่ที่กำเนิดภิกษุณีรูปแรก เป็นที่ที่ทำน้ำมนต์เป็นที่แรก ที่นี่ยังมีเสาอโศกที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศอินเดีย
11:00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ไวสาลี
นำท่านเดินทางต่อสู่เมือง กุสินารา (เดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)เมื่อถึงกุสินาราแล้วเดินทางไป วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อน้อมเป็นพุทธบูชาและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวาระครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานชื่อวัดให้ เชิญท่านร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก: Om Residency, Kushinagar หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
ที่พัก Om Residency, Kushinagar หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ สังเวชนียสถานแห่งที่ 2 นมัสการสถานที่ปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน มีต้นสาละปลูกไว้เป็นอนุสรณ์ นมัสการมหาปรินิพพานสถูป และเข้าไปสักการะพระพุทธรูปปางอนุฏฐิตสีหไสยาสน์ คือปางเสด็จบรรทมครั้งสุดท้ายภายในวิหารปรินิพพาน เดิมเป็นอุทยานของมัลละกษัตริย์ มีสถูปและวิหารปรินิพพาน ต้นสาละซึ่งเป็นสถานที่ปรินิพพาน ก็มีปลูกเป็นสัญลักษณ์หลายต้น ท่านจะได้เห็นต้นสาละที่แท้จริงที่นี่ ส่วนที่สมัยก่อนนักปราชญ์ของเราแปลต้นสาละว่า“ต้นรัง”นั้น ความจริงแล้วอาจเป็นตระกูลเดียวกัน แต่ไม่ใช่ต้นรังตามที่เชื่อกัน นำท่านนมัสการองค์ปรินิพพานสถูป มีลักษณะเป็นทรงบาตรคว่ำสูงใหญ่มีฉัตร 3 ชั้น ตอนบนสุดได้พังลงมาเมื่อปลายปี 2506 ปัจจุบันเห็นเพียงครึ่งท่อน ถัดมาเป็นปรินิพพานวิหารพระพุทธรูปปางไสยาสน์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานขนาดใหญ่
ให้ท่านได้ร่วมกันทำสมาธิภาวนา แล้วนำท่านไป นมัสการมกุฎพันธเจดีย์ (Makutabandana Stupa) สถานที่ถวายพระเพลิงพระสรีระสังขารของพระพุทธเจ้า ซึ่งปัจจุบันเป็นซากเจดีย์ ทรงกลม
11:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านเดินทางสู่ ลุมพินี (เนปาล) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง)
ระหว่างทางให้ท่านได้แวะเข้าห้องน้ำที่วัดไทย 960
******โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้ กับตัวท่านเพื่อประทับตราออกจากประเทศอินเดีย เข้าสู่ประเทศเนปาล*****
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก: Pawan Palace, Lumbini หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
ที่พัก Pawan Palace, Lumbini หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
06.00 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางไปนมัสการ สังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สถานที่ประสูติ ซึ่งเชื่อกันว่าบริเวณที่ประสูติของสิทธัตถราชกุมาร คือ จุดที่เสาพระเจ้าอโศกมหาราชตั้งอยู่ยังมีข้อความภาษาพราหมีจารึกไว้อย่างสมบูรณ์
เขียนว่าเป็นสถานที่ประสูติของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำท่านนมัสการมหามายาเทวีวิหาร (The Mahamaya Devi Temple) ภายในมีศิลาสลักภาพพุทธประวัติปางประสูติ เป็นรูปพุทธมารดาอยู่ในพระอิริยาบถยืนพระหัตถ์ขวาเหนี่ยวกิ่งไม้สาละ มีรูปเจ้าชายสิทธัตถะออกมาทางปัสสะขวาของพระพุทธมารดา ด้านหน้ามหามายาเทวีวิหารมี สระโบกขรณี (The Sacred Pond) ซึ่งเป็นที่สรงสนานของพระนางสิริมหามายาเทวีก่อนและหลัง ให้ประสูติกาลพระกุมาร นำท่านเดินทางไปทำบุญที่ วัดไทยลุมพินี
11:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านเดินทางกลับประเทศอินเดีย
******โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวท่านเพื่อประทับตราออกจากประเทศเนปาลเข้าสู่ประเทศอินเดีย***** ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ช.ม.
...เดินทางถึง สาวัตถี (Sravasti) เมืองโบราณในสมัยพุทธกาล มีความสำคัญในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล รุ่งเรืองจากการที่เป็นชุมนุมการค้าขาย การทหาร เป็นเมืองมหาอำนาจใหญ่ควบคู่กับเมืองราชคฤห์แห่งแคว้นมคธในสมัยโบราณ ปัจจุบันยังมีโบราณสถานที่สำคัญปรากฏร่องรอยอยู่ คือ วัดเชตวันมหาวิหาร (ซึ่งพระพุทธเจ้าเคยประทับอยู่ถึง 19 พรรษา), บริเวณวังของพระเจ้าปเสนทิโกศล, บ้านของอนาถบิณฑิกเศรษฐี (สถูป), สถานที่พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ (หน้าวัดพระเชตวันมหาวิหาร), ที่แสดงยมกปาฏิหาริย์ แล้วเสด็จไปจำพรรษา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อแสดงพระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา เป็นต้น
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก: Sravasti Residency Hotel, Sravasti หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
ที่พัก Sravasti Residency Hotel, Sravasti หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
06.00 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
จากนั้น นำท่านไป วัดเชตวันมหาวิหาร สร้างโดยท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี มหาเศรษฐีแห่งเมือง สาวัตถี บนที่ตั้งของเชตวันหรือสวนเจ้าเชตนอกเมืองสาวัตถี วัดนี้ดป็นวัดที่พระพุทธเจ้า จำพรรษามากที่สุดถึง 19 พรรษา และยังเป็นสถานที่เกิดเรื่องราวต่างๆ ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามากมาย
นำท่านชม บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นเรือนที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีอาศัยอยู่ เดิมมีนามว่าสุทัตตะเศรษฐี ท่านเป็นเศรษฐีที่ใจบุญ ชอบช่วยเหลือคนตกยาก ทำให้ท่านถูกเรียกจากชาวเมืองสาวัตถีว่า อนาถบิณฑิกเศรษฐี แปลว่า เศรษฐีผู้เป็นที่พึ่งของคนยากอนาถบิณฑิกเศรษฐี ได้ไปค้าขายและได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าที่เมืองราชคฤห์จนบรรลุเป็นพระโสดาบัน ท่านจึงมีศรัทธาสร้างวัดเชตวันมหาวิหารถวายแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำท่านชม บ้านองคุลีมาล แต่เดิมนั้นองคุลิมาลชื่อว่าอหิงสกะ สามารถเรียนได้รวดเร็วอีกทั้งยังปรนนิบัติอาจารย์อย่างดี จนเป็นที่รักใคร่ของอาจารย์อย่างมาก เป็นเหตุให้ศิษย์อื่นริษยา จึงยุยงอาจารย์ว่าองคุลิมาลคิดจะทำร้าย อาจารย์จึงคิดจะกำจัดองคุลิมาลเสีย โดยบอกกองคุลิมาลว่า ถ้าจะสำเร็จวิชาต้องฆ่าคนให้ได้ 1,000 คนเสียก่อน องคุลิมาลจึงออกเดินทางฆ่าคน แล้วตัดนิ้วหัวแม่มือมาคล้องที่คอเพื่อให้จำได้ว่าฆ่าไปกี่คนแล้ว เหตุนี้เอง อหิงสกะจึงได้รับสมญานามว่า องคุลิมาล เมื่อฆ่าจนครบ 999 คน ก็มาพบพระพุทธเจ้า และได้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ออกบวชเป็นพุทธสาวกในที่สุด
11:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านเดินทางไป พาราณสี (Varanasi) เมืองเก่าแก่กว่า 5,000 ปี ไม่เคยร้าง มีการสืบทอดประเพณีของศาสนาพราหมณ์ / ฮินดู อย่างต่อเนื่อง (เดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง)
20.00 น. รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก: Amaya Hotel Varanasi หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
ที่พัก Amaya Hotel Varanasi หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
............. นำท่านไป ล่องเรือแม่น้ำคงคา แม่น้ำอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู ชมการอาบน้ำล้างบาป บูชาพระอาทิตย์ ชมการเผาศพริมฝั่งแม่น้ำคงคาที่กว่า 3,000 ปี ไฟไม่เคยดับ
07.30 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
08.30 น. นำท่านเดินทางไป สารนาถ สังเวชนียสถานแห่งที่ 4 สถานที่แสดงปฐมเทศนา อิสิปตนมฤคทายวัน เป็นการแสดงธรรมครั้งแรกที่มีชื่อว่า พระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร สักการะธัมเมกขสถูป ที่ พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 และ ฤษีโกณทัญญะบรรลุโสดาบัน ทูลขอบวชเป็นพุทธสาวกรูปแรก และเป็นวันแรกที่มีพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ครบองค์รัตนตรัย กราบสักการะยสเจตียสถาน สถานที่แห่งความไม่ขัดข้อง ไม่มีความวุ่นวาย เป็นเจดีย์ขนาดเล็ก มีอาคารสี่เหลี่ยม มุงไว้เป็นอย่างดี สถานที่นี้เชื่อกันว่าพระพุทธองค์ทรงแสดงอิทธาภินิหารโปรดพระยสกุลบุตร ผู้เป็นบุตรเศรษฐี แห่งเมืองพาราณสี ด้วยอนุปพพิกถาในข้อธรรมที่แสดงทาน ศีล สวรรค์ เนกขัมมะ กามาทีนพ ตามลำดับ เป็นผลให้ ยสมาณพได้ดวงตาเห็นธรรม และให้บิดาได้เป็นปฐมอุบาสก มารดาและภรรยาได้เป็นปฐมอุบาสิกา ณ สถานที่นี้อีกด้วย
และนำท่านสู่ พิพิธภัณฑ์สารนาถ ที่จัดแสดงและเก็บรักษาโบราณวัตถุที่ขุดค้นได้ในบริเวณสารนาถเช่น พระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ เทวรูป เครื่องใช้สอยในยุคนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฏิมากรรมที่เป็นเลิศคือพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่งดงามยิ่งนัก สิงห์อันเป็นตราราชการแผ่นดินของอินเดีย
11.30 น. รับประทานอาหารกลางวันในโรงแรม
บ่าย หลังอาหาร นำท่านเดินทางกลับสู่ พุทธคยา โดยทางรถ (ใช้เวลาโดยประมาณ 6 ชม.)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก: Anand International Hotel, Bodhgaya หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
ที่พัก Anand International Hotel, Bodhgaya หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน
06.30 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
เช้า นำท่านไปกราบสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระพุทธเมตตา อีกครั้งก่อนเดินทางกลับเมืองไทย แล้วนำท่านชม บ้านนางสุชาดา ผู้ที่ถวายข้าวมธุปายาส (ข้าวที่หุงด้วยนมโคล้วน) ให้กับพระพุทธเจ้าก่อนที่จะตรัสรู้ ระหว่างทางไปบ้านนางสุชาดาจะต้องนั่งรถผ่านแม่น้ำเนรัญชราซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาที่พระศาสดาได้รับการถวายข้าวมธุปายาสพร้อมถาดทองคำจากนางสุชาดาและพระองค์ได้อธิษฐานจิตเสี่ยงทายหากพระองค์ท่านสามารถตรัสรู้ได้ ขอให้ถาดทองคำลอยทวนสายน้ำ
11.00 น. รับประทานอาหารกลางวันในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ สนามบินพุทธคยา
13.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG328
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
18.15 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ...