05.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 7 เคาน์เตอร์ M สายการบิน Air India (AI)  โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านเอกสารการเดินทางและสัมภาระการเดินทางของท่านให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง

  08.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินอินทิรา คานธี ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน Air India เที่ยวบินที่ AI333 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

  11.35 น.  เดินทางถึง สนามบินอินทิรา คานธี ประเทศอินเดีย

  เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าชม วัดอัครชาดาม (Akshardham Temple) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบฮินดูที่มีขนาดใหญ่สร้างขึ้นโดย Pramukh Swami Maharaj ผู้นำนิกาย Swami Narayan ของศาสนาฮินดู เป็นศูนย์รวมเกี่ยวกับอารยะธรรมอินเดีย และมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับวัฒนธรรมและศิลปะต่างๆ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอัครา (Agra) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) เมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของประเทศอินเดียเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของอินเดียสมัยราชวงศ์โมกุล สลับกันกับเมืองเดลี และเป็นสถานที่ตั้งของทัชมาฮาล 

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม     
  นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Grand Mercure Hotel ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
นำท่านเข้าชม อนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ทัชมาฮาล (Taj Mahal)  ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมุนา สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาว และหินทรายแดง ประดับประดาด้วยรัตนชาติหลากหลายชนิด ใช้เวลาในการสร้างถึง 22 ปี เพื่อแสดงถึงความรัก อันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ซาจาร์ฮาล ต่อพระมเหสีมุมตัส มาฮาล ที่สวรรคตเนื่องจากการให้กำเนิดบุตรคนที่14 ภายในทัชมาฮาลนั้นเป็นที่บรรจุร่างของพระนางมุมตัส และกษัตริย์ ซาจาร์ฮาล โดมหินอ่อนสีขาวที่สวยงามโดดเด่น และเปลี่ยนสีไปตามเวลาของแสงแดดที่ทอแสงสาดทัชมาฮาล ให้ท่านเดินชมบรรยากาศโดยรอบ รวมถึงวิวแม่น้ำยมุนาด้านหลัง ที่มองข้ามแม่น้ำไปจะเห็นโครงการ ก่อสร้างแบล็ค มาฮาล ซึ่งพระเจ้าซาจาร์ฮาลตั้งใจจะสร้างคู่กับทัชมาฮาล แต่เพราะเหตุอันใด เราพาท่านไปหาคำตอบที่อัคราฟอร์ทกัน  จากนั้นนำท่านเข้าชม อัคราฟอร์ท (Agra Fort) ห่างจากทัชมาฮาลประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่สร้างขึ้นโดยใช้เวลาที่ยาวนานถึงสามยุคของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล มีลักษณะเป็นกำแพงสองชั้นและป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ สนาม และอาคารทางเดินโดยรอบ ทั้งอาคารหินทรายสีแดง สร้างโดยกษัตริย์อัคบาร์ ที่นี่ยังเป็นที่คุมขังกษัตริย์ซาจาร์ฮาล โดยบุตรชายของพระองค์เอง พระองค์ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยการมองผ่านกระจกเงาที่ตั้งอยู่ในที่คุมขังสะท้อนเงาไปยังทัชมาฮาล ที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์

  เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงเดลี (New Delhi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) ที่มีความใหม่ตามวัฒนธรรมอังกฤษ  เป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดีย ชมศิลปะการก่อสร้างเมืองที่อังกฤษ ได้สร้างและมีการวางผังเมืองที่ทันสมัย และสวยงามตามวัฒนธรรมของอังกฤษ และติดอับดับหนึ่งในนครหลวงของโลก 

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน)     
  นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Radisson Blu Hotel New Delhi Dwarka ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม   
หลังจากรับประทานอาหารเช้า นำท่านเดินทางสู่สนามบิน 10.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินศรีนาคา โดยสายการบิน Air India เที่ยวบินที่ AI825 (บริการอาหารว่าง ชา    กาแฟ บนเครื่องบิน) 11.50 น.  เดินทางถึง สนามบินศรีนาคา 

  เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองพาฮาลแกม (Pahalgam)  (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ซึ่งได้รับการขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า หุบเขาแกะ พาฮาลแกมเป็นเมืองที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,130 เมตร เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดีย ระหว่างทางสองข้างทางท่านจะพบวิถีชีวิตของชาวแคชเมียร์ ชมวิวความงดงามของเทือกเขาหิมาลัยและแม่น้ำลิดเดอร์ ร้านขายไม้คริกเก็ต กีฬายอดนิยมของที่นี่ ชาวแคชเมียร์เล่นกีฬาประเภทนี้ตามสนามทั่วไป ไม้คริกเก็ตนี้ทำมาจากต้นหลิว (Willow Tree) ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปทั้งในเมืองและนอกเมือง แต่จะพบเห็นได้มากระหว่างทางไปเมืองพาฮาลแกม 

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม   
  นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Green Heights ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขา Behtab Valley โดยรถจิ๊ป เป็นหุบเขาที่มีชื่อเสียงขึ้นมาหลังจากที่ภาพยนตร์นําแสดงโดย Sunny Deol และ Amrita Singh เรื่อง Betaab ได้ถูกถ่ายทำที่นี่ในปี 1983 ล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่มีต้นไม้ดีนด์และป่าสนที่เขียวขจีอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการพักผ่อนรับอากาศอันบริสุทธิ์ ดินแดนแห่งความงามนิรันดร์นี้ ได้ชื่อว่าเป็นอัญมณีล้ำค่าของการท่องเที่ยวในชัมมูและแคชเมียร์ ทำให้ Behtab Valley เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว Pahalgam ที่ไม่ควรพลาด

  เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม 
นำท่านเดินทางสู่ เมืองศรีนาคา (Srinagar)  (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองศรีนาคา หรือ ศรีนคร เมืองหลวงฤดูร้อนแห่งแคว้นจัมมู-แคชเมียร์ เป็นเมืองที่เป็นที่หมายของนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติที่มาเยือนจากทั่วโลกมาเป็นศตวรรษ ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาแคชเมียร์ ที่ระดับความสูง 1,730 เมตร ได้เชื่อว่า สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย เป็นดินแดนแห่งทะเลสาบและสายน้ำ สวนดอกไม้และงานศิลปะที่ประดิษฐ์จากไม้ศรีนาคา   นำท่านเข้าชม สวนทิวลิป (Tulip Garden) สวนทิวลิปนี้ที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นสวนทิวลิปที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ในเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงที่ดอกทิวลิปบานเต็มที่ และมีการจัดเทศกาลดอกทิวลิปประจําปี เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชมในศรีนาคา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาซาบาร์วัน สวนเจ็ดชั้นขึ้นชื่อจากดอกทิวลิป 48 สายพันธุ์ และสวนแห่งนี้ยังมีดอกไม้นานาพันธุ์ นอกเหนือจากทิวลิป เช่น แดฟโฟดิล กุหลาบ รานันคูลี มัสคาเรีย ไอริส ฯลฯ อิสระให้ท่านเดินชมดอกไม้ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย  เวลาที่ดีที่สุดในการชม: ดอกทิวลิปจะเริ่มบานตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมและบานจนถึงประมาณกลางเดือนเมษายน ของทกุๆปี  จากนั้นนำท่านเข้าชม สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) เป็นสวนโมกุลในศรีนาคา ชัมมูและกัศมีร์ ประเทศอินเดีย เชื่อมต่อกับทะเลสาบดาล สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิชะฮันคีร์แห่งจักรวรรดิโมกุล ให้กับพระมเหสีนูร์ชะฮันในปี 1619 สวนนี้ถือเป็นจุดสูงสุดของวิทยาพืชสวนของโมกุล ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะและถือเป็น "มงกุฏแห่งโมกุล" นำท่านเข้าชม สวนนิชา (Nishat Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด มีต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ต้นทิวลิป และ ดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ตั้งอยู่บนฝั่งของทะเลสาบดาลมีภูเขา ZABARWAN ตั้งเป็นฉากหลัง นี่คือ “สวนแห่งความสุข” ที่มีวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบที่งดงามและหิมะบนยอดเขาของเทือกเขา PANJAL ซึ่งตั้งตระหง่านไปทางทิศตะวันตกของหุบเขา สวนนิชาถูกออกแบบในปี ค.ศ.1632 โดย ASAF KHAN……จากนั้นนำท่านเข้าพักบ้านเรือ ในทะเลสาบดาล หรือ ทะเลสาบนากิน บ้านเรือ หรือ Houseboat ถือกำเนิดขึ้นมาในสมัยที่ดินแดนแถบนี้ ยังมีอังกฤษเป็นเจ้าประเทศอาณานิคมอยู่ แต่ชาวอังกฤษเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์ถือครองที่ดิน พวกเขาจึงได้สร้างเรือเอาไว้เป็นที่พักอาศัยแทน เมื่อได้รับเอกราชแล้ว เรือเหล่านี้ก็ถูกแปรสภาพมาเป็นโรงแรมและบ้านพัก ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังแคชเมียร์จนถึงทุกวันนี้

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของบ้านเรือ 
  นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Deluxe Houseboat หรือเทียบเท่า

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม   
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกุลมาร์ค (Gulmarg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)  หรือ แดนทุ่งหญ้าของดอกไม้ (Meadow of Gold) เป็นแหล่งท่องเที่ยวในฤดูหนาว มีระดับความสูง 2,730 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในช่วงฤดูร้อนที่นี่เป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก โดยรอบจะพบเห็นกระท่อมรูปทรงแบบในเทพนิยาย ซึ่งมีป่าสนอยู่เบื้องหลัง ในช่วงฤดูหนาวที่นี่ยังเป็นสถานที่เล่นสกีที่ค่าเช่าสกีจัดได้ว่าถูกที่สุดก็ว่าได้ และในปัจจุบันยังเป็นสถานที่ตั้งสนามกอล์ฟ 18 หลุม ที่สูงที่สุดในโลก (3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล) และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย ตลอดเส้นทางสู่กุลมาร์คจะผ่านทุ่งนาข้าว หมู่บ้านชาวพื้นเมือง ฝูงแกะตามภูเขา และเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนสวยงาม

  เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร   
นำท่าน ขึ้นเคเบิลคาร์ เฟส 1 (กระเช้าลอยฟ้า หรือกอนโดล่า) เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่มีความสูงที่สุดในโลก มีความสูง 3,979 เมตรจากระดับน้ำทะเล ระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขากุลมาร์ค ท่านจะพบเห็นหมู่บ้านยิปซีในเบื้องล่าง ซึ่งจะอพยพไปอยู่ที่เมืองชัมมูในช่วงฤดูหนาว จะกลับมาอยู่อาศัยในช่วงฤดูร้อน (ท่านสามารถเล่นสกีได้ระหว่างช่วงฤดูหนาว-ใบไม้ผลิ มี.ค.-เม.ย.) รวมถึงยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขาเอเวอร์เรสต์ อิสระให้ ท่านถ่ายภาพบนลานหิมะ ณ เฟส 1 สนุกสนานเพลิดเพลินกับภูเขาหิมะกว้างสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น สโนว์โมบิล, สเลด, กระดานลากเลื่อน ให้ท่านเลือกเล่นตามอัธยาศัย (ราคากิจกรรมไม่รวมในค่าทัวร์ หากสนใจสอบถามกับหัวหน้าทัวร์ได้).......ได้เวลาสมควร นําท่านเดินทางกลับสู่ เมืองศรีนาคา นำท่านชมด้านนอก มัสยิดจามา (Jama Masjid) ซึ่งสร้างเป็นครั้งแรกในสมัยสุลต่านสิคานเดอร์และบูรณะต่อมาอีกหลายสมัย เป็นมัสยิดที่สร้างด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบจีนและเนปาล ด้วยหลังคาทรงสี่เหลี่ยม ภายในมีเสาที่ตัดจากต้นซีดาลทั้งต้น กว่า 300 ต้น เรียงรายอยู่

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Arco Hotel & Resort ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม   
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโซนามาร์ค (Sonamarg)  (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) มีธารน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ที่ปกคลุมอยู่ตามลาดไหล่เขา อีกทั้งเทือกเขาหิมะที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายสีทอง จึงเป็นที่มาของชื่อ โซนามาร์ค และยังมีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ที่เรียกขานตามท้องถิ่นว่า Thajiwas ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี  มีแม่น้ำสินธุ ลดเลี้ยวผ่านหุบเขาในอีกฟากของถนน โซนามาร์คเป็นสถานีเริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดัคห์ หรือเป็นรู้จักกันดีในชื่อว่า “ประตูสู่ลาดัคห์” เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงาม ตลอดสองข้างทาง

  เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร   
นำท่าน ขี่ม้าแคระ (มีคนจูง) ชมความงามของกราเซียร์อย่างใกล้ชิด สัมผัสอากาศที่หนาวเย็น ชมวิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนจนแสบตา และสองฝากฝั่งถนนที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง ถนนบางช่วงต้องตัดผ่านช่องน้ำแข็งขนาดใหญ่ (ราคารวมค่ากิจกรรมขี่ม้าแล้ว)......ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินกลับสู่ เมืองศรีนาคา

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Arco Hotel & Resort ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ล่องเรือชิคาร่า เป็นเรือที่ให้เสมือนการเดินทางใน ทะเลสาบดาล เมืองศรีนาคา เรือชิราคามีขนาดต่างๆ และใช้เพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ รวมถึงการขนส่งโดยมีคนขับพายอยู่ด้านหลัง เช่นเดียวกับ เรือกอนโดล่าเวนิส และเป็นสัญลักษณ์ ทางวัฒนธรรมของแคชเมียร์การนั่งชิคาราถือเป็นหัวใจการท่องเที่ยวในเมืองศรีนาคา สนุกสนานเพลิดเพลินกับการ เลือกซื้อสินค้าพื้น เมืองของชาวแคชเมียร์ ที่นำของมาขายให้ท่าน ระหว่างล่องและชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำรอบทะเลสาบ สัมผัสวิถีชีวีติของผู้คนในทะเลสาบดาล (ใช้เวลาในการล่องเรือ ประมาณ 1 ชม.)……ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินศรีนาคา

  เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน (Box Set)

  12.20 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินกรุงเดลี โดยสายการบิน Air India เที่ยวบินที่ AI826 (บริการอาหารว่าง ชากาแฟ บนเครื่องบิน)

  14.10 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงเดลี นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก จากนั้นนำท่านชม เมืองเดลีใหม่ (New Delhi) ที่มีความใหม่ตามวัฒนธรรมอังกฤษ  เมืองหลวงของประเทศอินเดีย ชมศิลปะการก่อสร้างเมืองที่อังกฤษ ได้สร้างและมีการวางผังเมืองที่ทันสมัย และสวยงามตามวัฒนธรรมของอังกฤษ และติดอับดับหนึ่งในนครหลวงของโลก ผ่านชม ประตูชัยอินเดีย (India Gate) อันสูงใหญ่สง่างาม คล้ายประตูชัยในปารีส โครงสร้างเป็นซุ้มหินทรายที่สร้างขึ้นโดยชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 2 อนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียง เป็นเครื่องหมายของทหารอังกฤษอินเดียที่สูญหาย 70,000 นาย ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ได้รับการออกแบบโดย Sir Edward Lutyens ตั้งแต่ปี 1971 นำท่านผ่านชม ราษฎร์ปติภวัน ที่พำนักทางการของประธานาธิบดีอินเดีย ตั้งอยู่ปลายฝั่งตะวันตกของราชปัถในนิวเดลีอาคารหลักประกอบด้วยห้อง 340 ห้อง การปฏิสังขรณ์ครั้งแรกเริ่มขึ้น ในปี 1985 และเสร็จสิ้นในปี 1989 ส่วนในครั้งที่สองได้เริ่มต้นในปี 2010 จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งที่ ตลาดจันพาธ (Janpath Market) ตลาดชื่อดังกลางกรุงนิวเดลีตลาดยอดฮิต อายุกว่า 80 ปี แหล่งรวมนักท่องเที่ยว นักช้อปปิ้งกลางกรุงนิวเดลี อยู่ใกล้กับย่าน Connaught Place ใกล้สถานี รถไฟฟ้า Rajiv Chowk มีสินค้าตั้งแต่ เสื้อผ้าปัก งานหัตถกรรมไม้โคมไฟ ทองเหลือง ผ้าปักลูกปัด เครื่องประดับทำมือ กระเป๋าแฟชั่นทั้งหลาย รองเท้าปลายแหลมด้านหน้า รองเท้าสไตล์อินเดีย(Jootis) ส่าหรี ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน สีสันแสบตา และอื่นๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย

  ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารไทย)
  นำท่านเข้าพักค้างคืน ณ Radisson Blu Hotel New Delhi Dwarka ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

ที่พัก

  เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 
อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย......ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบิน     

  11.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Air India เที่ยวบินที่ AI332 (บริการ อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน) 

  16.55 น. เดินทางมาถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ 

ที่พัก