• cantonfair
  • จองทัวร์กับ EDC
  • ticket
  • เที่ยวจีน
  • ขอราคากรุ๊ปเหมาคลิกเลย
  • เที่ยวญี่ปุ่น

วิธีการเลือกกระเป๋าเดินทางแบบ Hard Case


กระเป๋าเดินทางคือสิ่งคัญอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการลงทุนกับกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบที่อาจจะราคาสูงซักหน่อยแต่มีคุณภาพดีกว่า นอกจากจะช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกรวดเร็วและรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยประหยัดเงินในระยะยาวได้อีกด้วย

เพราะกระเป๋าเดินทางที่ราคาสูงหน่อยจะมีการเสียหายยากกว่ากระเป๋าเดินทางราคาถูก เพราะทำจากวัสดุคุณภาพดี ฟังก์ชั่นอุปกรณ์พร้อมไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม และยังมีการรับประกันที่นานกว่าอีกด้วย
 
กระเป๋าเดินทางนั้นมีหลายแบบหลายสไตล์ เช่น กระเป๋าล้อลาก กระเป๋าเป้แบ็กแพก กระเป๋าถือ เป็นต้น กระเป๋าที่นักเดินทางส่วนใหญ่เลือกใช้กันคือกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากนั่นเองเพราะใช้ได้สะดวก จัดเก็บสิ่งของได้ง่าย และยังทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทานอีกด้วย
 
กระเป๋าเดินทางแบบล้อลากที่คนนิยมเลือกใช้กันจะมีให้เลือกสองแบบ Soft Case กับ Hard Case หรือที่เรียกง่ายๆ คือกระเป๋าผ้ากับกระเป๋าไฟเบอร์ ซึ่งทั้งสองแบบก็มีข้อดีไม่เหมือนกัน จึงเหมาะกับสไตล์การเดินทางที่แตกต่างกันไป ส่วนในวันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับกระเป๋าแบบ Hard Case หรือกระเป๋าไฟเบอร์กันก่อน ว่ามีข้อดีอะไรบ้าง เหมาะกับนักเดินทางแบบไหน และควรเลือกใช้กระเป๋าแบบ Hard Case ที่ทำจากวัสดุแบบไหนดี







กระเป๋าแบบ Hard case ดีอย่างไร

  • ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ทนต่อแรงกระแทก
  • ด้วยความที่ภายนอกแข็งแรง เป็นทรงไม่ยุบง่ายเหมือนกระเป๋าผ้า จึงไม่ต้องกังวลว่าเสื้อผ้าที่ขนไปจะถูกเบียดทับจนยับยู่ยี่
  • อย่างที่บอกว่ากระเป๋าแบบ Hard case จะทนต่อแรงกระแทกได้ดีกว่า เวลาที่แพ็คน้ำหอม แชมพู ครีมอาบน้ำ หรือของเหลวต่างๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าขวดเหล่านี้ที่อยู่ในกระเป๋าจะถูกกระแทกจนแตกกระจาย
  • กันน้ำ กันฝุ่นได้ดี หากต้องเดินทางช่วงหน้าฝน ก็ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะซึมเข้ากระเป๋าจนของข้างในเปียก
  • ทำความสะอาดง่าย จะเปียก จะเลอะก็เช็ดๆ ออกได้
 


กระเป๋าแบบ Hard case เหมาะกับนักเดินทางแบบไหน


เดินทางไปติดต่อเรื่องงาน
เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางไปติดต่องานหรือดูงาน เพราะแน่นอนว่าในเรื่องของการทำงานภาพลักษณ์ถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญ กระเป๋าแบบ Hard case นั้นช่วยตอบโจทย์ได้หลายด้าน นอกจากจะช่วยให้เสื้อผ้าที่เตรียมไปจะไม่ยับแล้ว ตัวกระเป๋ายังออกแบบมาอย่างดูดีและสวยกว่ากระเป๋าแบบผ้าอีกด้วย




นักเดินทางสายบิวตี้
เหมาะกับสาวๆ ที่ขาดเรื่องความสวยความงามไม่ได้แม้ต้องเดินทางไกล เพราะเมื่อน้ำหอม เครื่องสำอาง ครีม แชมพูต้องมีพร้อม ไม่ว่าจะขนไปหรือซื้อกลับมา ไม่ดีแน่ถ้าบรรจุภัณฑ์ที่แสนบอบบางอย่างขวดน้ำหอมแตกกระจายอยู่ในกระเป๋า กระเป๋าแบบ Hard case จึงเหมาะอย่างมากสำหรับสาวๆ เหล่านี้เพราะความที่ทนต่อแรงกระแทกได้ดีกว่า ก็ไม่ต้องกลัวว่าของข้างในจะบุบสลายง่ายๆ




นักเดินทางสายแฟชั่น
เหมาะกับหนุ่มๆ สาวๆ ที่ตามแฟชั่น แน่นอนว่าการเดินทางไปท่องเที่ยวกับเรื่องถ่ายรูปเป็นของคู่กัน คนที่ชื่นชอบความทันสมัย ไม่ชอบพร็อพที่ดูเชยๆ ก็แนะนำเลย ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ส่วนใหญ่แล้วจะออกแบบอย่างทันสมัย ทั้งเรื่องสีและรูปทรง กระเป๋าแบบ Hard case จึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี




นักเดินทางเน้นเที่ยวไม่เน้นช้อป
เหมาะสำหรับคนที่มีคติว่า ไปทั้งทีต้องเที่ยวให้คุ้ม ใครที่ออกทริปทีนึงก็จะเน้นแต่เรื่องเที่ยวให้ทั่ว คืนนี้นอนเมืองนี้ พรุ่งนี้นอนอีกเมือง ต้องขึ้นรถหรือเดินเยอะๆ กระเป๋าลากแบบ Hard case จะช่วยให้การเดินทางสะดวกได้มากกว่า เพราะกระเป๋าเป็นทรงลากได้ง่าย ของข้างในจะปลอดภัยจากแรงกระแทกของการเดินหรือการยกขึ้นยกลง นอกจากนี้ก็ไม่ต้องห่วงเมื่อเจอน้ำหรือฝนตก




นักเดินทางขี้เมื่อย
เหมาะกับคนที่เดินไปเหนื่อยไป ลากกระเป๋านานๆ ก็เหนื่อย ยืนรอนานๆ ก็จะเมื่อย กระเป๋าแบบ Hard case สามารถแปลงร่างเป็นเก้าอี้สำหรับนั่งพักได้ เพราะตัวกระเป๋าทำจากวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน จึงเป็นตัวช่วยยามเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี




นักเดินทางทั่วไป
สุดท้ายแล้วกระเป๋าแบบ Hard case นั้นก็เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วยความที่กระเป๋าสามารถตอบโจทย์ได้หลายอย่าง ทั้งเรื่องความทนทาน ความสวยงาม และประโยชน์ใช้สอย จึงทำให้ไม่ว่าคุณเป็นนักเดินทางแบบไหนก็สามารถใช้เดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย



 


เรื่องของวัสดุ


ตัวกระเป๋า
กระเป๋าเดินทางแบบ Hard case นั้นผลิตจากวัสดุหลายแบบต่างกันไป ราคาของกระเป๋าก็จะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ การเลือกกระเป๋าควรเลือกที่ทำจากวัสดุที่มีความเหนียวแน่น ทนต่อแรงกระแทก และทนต่อการขูดขีด อย่าง PP (Polypropylene) หรือโพลีพรอพเพอลีน ซึ่งจะเหมาะมากสำหรับนักเดินทางทั่วไป เพราะทั้งน้ำหนักไม่มาก มีความทนทาน และราคาประหยัดกว่าอีกด้วย




ซิป
ควรเลือกซิปที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง เปิดออกง่าย เป็นซิปที่รูดได้สองทิศทางเพื่อสะดวกในการใช้งาน การเลือกกระเป๋าแบบซิปสองชั้นก็จะช่วยป้องกันซิปแตกง่ายหรือโดนกรีดจากช่องซิปได้ แต่ถ้าต้องการความปลอดภัยในการเดินทางที่มากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันมีกระเป๋าเดินทางแบบเฟรมหรือแบบไร้ซิบให้เลือกใช้อีกด้วย  ซึ่งช่วยป้องกันการถูกกรีดซิบได้ดีกว่า ไม่ต้องกลัวว่าซิปจะแตกหรือเปิดออกเองโดยไม่ตั้งใจระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะใช้เป็นระบบล็อก 3 จุดแทน แข็งแรงมากยิ่งขึ้น 




คันชักกระเป๋าและหูจับ
คันชักแบบยืดหดได้ควรเลือกแบบที่มีความแข็งแรง มีตัวล๊อคก้านคันชักที่สามารถปรับได้หลายระดับ เพื่อความสะดวกขณะการเดินทาง ควรติดตั้งแนบกับกระเป๋ามากที่สุด หรือเมื่อหดเก็บแล้วจะซ่อนไว้อยู่ในตัวกระเป๋าอย่างมิดชิดเรียบร้อย เพื่อป้องกันความเสียหาย ส่วนของหูจับควรมีสองด้านทั้งด้านบนและด้านข้างกระเป๋าเพื่อสะดวกต่อการยก




ล้อ
หนึ่งในส่วนสำคัญของกระเป๋าเดินทาง เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ง่ายต่อการเสียหาย ควรเลือกใช้แบบ 4 ล้อมากกว่า 2 ล้อ เพราะช่วยให้ไม่เหนื่อยมาก ไม่ต้องใช้แรงเยอะเมื่อต้องลากกระเป๋าเดิน อีกทั้งควรเลือกล้อคู่แบบหมุนได้ 360 องศาเพื่อการรับน้ำหนักได้ดีกว่าและสะดวกในการลาก

ค้นหาบทความ

ทัวร์แนะนำ

  • ลูกบาส
  • ที่ปรึกษาการท่องเที่ยวต่างประเทศ
  • ทัศดาว
  • ที่ปรึกษาการท่องเที่ยวต่างประเทศ
  • เตยหอม
  • ที่ปรึกษาการท่องเที่ยวต่างประเทศ
  • คุณจ้ะเอ๋
  • ที่ปรึกษาตั่วเครื่องบินในประเทศ-ต่างประเทศ องค์กรเอกชน, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ ลูกค้าทั่วไป
  • คุณเนตร
  • ที่ปรึกษาตั่วเครื่องบินในประเทศ-ต่างประเทศ องค์กรเอกชน, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ ลูกค้าทั่วไป
  • ลูกตุ้ม
  • ที่ปรึกษาตั่วเครื่องบินในประเทศ-ต่างประเทศ องค์กรเอกชน, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ ลูกค้าทั่วไป
DEPARTMENT OF TOURISM
Thai Travel Agents Association
Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA)